ก่อนเจาะลึกเรื่อง Landing Page เรามาทำความรู้จักกับ PPC กันแบบสั้นๆ ง่ายๆ PPC คือกลยุทธ์โฆษณาแบบเสียเงิน ที่ช่วยให้คุณเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่สนใจธุรกิจคุณโดยตรง โดยโฆษณาคุณจะปรากฏอยู่ด้านบนสุดของผลการค้นหา เหนือผลการค้นหาแบบทั่วไป

โฆษณา PPC เป็นสุดยอดตัวช่วยในการดึงดูดกลุ่มเป้าหมายคุณภาพเยี่ยมที่กำลังสนใจธุรกิจคุณ

ในการเริ่มต้นใช้โฆษณา PPC คุณจะต้องเลือกคำหลักสำหรับหน้าเพจคุณก่อน ซึ่งคำหลักเหล่านี้จะเป็นตัวกระตุ้นให้โฆษณาคุณปรากฏในผลการค้นหาที่เกี่ยวข้อง โดยแนะนำให้เลือกใช้คำหลักแบบ Long-tail ที่มีความยาว 3 คำขึ้นไป เพื่อดึงดูดกลุ่มเป้าหมายที่ตรงใจมายังเพจคุณได้มากขึ้น

เมื่อเลือกคำหลักเรียบร้อยแล้ว ก็ถึงเวลาประมูลตำแหน่งโฆษณา โดยคุณจะกำหนดราคาเสนอสูงสุด ซึ่งก็คือจำนวนเงินที่คุณยินดีจ่ายเมื่อมีคนคลิกโฆษณาคุณ ราคานี้สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามต้องการ

ราคาเสนอสูงสุดและคะแนนคุณภาพคุณจะเป็นตัวกำหนดตำแหน่งโฆษณา เมื่อได้ตำแหน่งที่พอใจแล้ว ก็สามารถเริ่มแคมเปญคุณได้ทันที

โฆษณา PPC ไม่ได้มีแค่ใน Google เท่านั้น คุณยังสามารถใช้โฆษณาแบบ PPC บนโซเชียลมีเดียได้อีกด้วย ซึ่งโฆษณาจะปรากฏในฟีดข่าวของผู้ใช้โซเชียลมีเดีย เป็นช่องทางที่ยอดเยี่ยมในการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายใหม่ๆ

โฆษณาบนโซเชียลมีเดียจะกลมกลืนไปกับฟีดข่าวของผู้ใช้อย่างแนบเนียน และสำหรับทั้งโฆษณา PPC และโฆษณาโซเชียลมีเดีย คุณจะต้องจ่ายเงินเมื่อมีคนคลิกโฆษณาเท่านั้น นั่นหมายความว่าเงินคุณจะถูกใช้ไปกับกลุ่มเป้าหมายคุณภาพที่สนใจในสินค้าหรือบริการคุณอย่างแท้จริง

เราจะมาเจาะลึกรายละเอียดเกี่ยวกับ Landing Page กันเพิ่มเติมในภายหลัง แต่ตอนนี้เรามาดูกันก่อนว่าทำไมการสร้าง Landing Page PPC และโซเชียลมีเดียคุณจึงมีความสำคัญสุดๆ

เพื่อให้เห็นภาพชัดขึ้น ลองนึกถึง Landing Page ในแง่ของความต่อเนื่อง สมมติว่าคุณเป็นเจ้าของธุรกิจดูแลสัตว์เลี้ยงสุดหรู และกำลังใช้งานแคมเปญโฆษณา Google Ads เน้นไปที่คำค้นหาเกี่ยวกับบริการพาสุนัขเดินเล่น

หากไม่มี Landing Page ลูกค้าที่มีแนวโน้มสนใจบริการและคลิกโฆษณาคุณเพื่อหาข้อมูลเพิ่มเติม จะถูกพาไปยังหน้าแรกของเว็บไซต์ ซึ่งแน่นอนว่าไม่ได้มีแค่บริการพาสุนัขเดินเล่น แต่เต็มไปด้วยบริการดูแลสัตว์เลี้ยงและสินค้ามากมายสำหรับสัตว์หลากหลายชนิด ทำให้ลูกค้าต้องเสียเวลาหาว่าบริการพาสุนัขเดินเล่นอยู่ตรงไหน

แค่คิดก็เหนื่อยแล้ว ลูกค้าส่วนใหญ่คงไม่สู้ต่อ และนั่นจะทำให้ Conversion Rate คุณดิ่งลงเหว

แต่ถ้าคุณมี Landing Page ที่ออกแบบมาเฉพาะสำหรับบริการพาสุนัขเดินเล่นล่ะก็ ทุกอย่างจะเปลี่ยนไป เมื่อลูกค้าคลิกโฆษณา พวกเขาจะถูกพาไปยังหน้าสุดพิเศษที่เต็มไปด้วยข้อมูล รายละเอียดราคา และทุกอย่างเกี่ยวกับบริการพาสุนัขเดินเล่น กระตุ้นให้เกิดการตัดสินใจซื้อได้มากขึ้นแบบสุดๆ

Landing Page พร้อมจัดระเบียบข้อมูลให้เข้าถึงง่ายสุดๆ ถ้าคุณยังพาผู้เข้าชมไปกองรวมกันที่หน้าแรกเหมือนเดิม ก็ยากที่จะปรับปรุงข้อมูลลูกค้าให้ดีขึ้นได้

เพราะทุกการเปลี่ยนแปลงบนหน้าแรกจะส่งผลต่อทุกคนที่เห็นหน้านั้น ดังนั้น แม้จะทำให้ Conversion Rate ของกลุ่มเป้าหมายหนึ่งเพิ่มขึ้น ก็อาจไปลด Conversion Rate ของอีกกลุ่มได้แบบไม่รู้ตัว

Landing Page จึงเปรียบเสมือนฉากกั้นสุดมหัศจรรย์ ให้คุณปรับแต่งทุกอย่างให้ตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมายที่หลากหลายได้อย่างแม่นยำ และบริการออกแบบ Landing Page ระดับโปรจาก Uptle พร้อมเนรมิตฉากกั้นสุดล้ำที่กลมกลืนไปกับเว็บไซต์คุณได้อย่างไร้ที่ติ

ราคาของ Landing Page รวมถึงการออกแบบ Landing Page เฉพาะทางนั้นมีความแตกต่างกันออกไป

ราคาของหนึ่ง Landing Page จะขึ้นอยู่กับปริมาณเนื้อหา การทดสอบ การพัฒนา และการปรับแต่ง ยิ่ง Landing Page มีความซับซ้อนมาก ก็ยิ่งต้องใช้เงินลงทุนมากขึ้น เช่น Landing Page สำหรับ PPC แบบเรียบง่ายอาจมีราคาไม่สูงมากนัก ในขณะที่ Landing Page สุดล้ำสำหรับโซเชียลมีเดียที่มีลูกเล่นพิเศษหรือปุ่ม Call to Action สุดเร้าใจ อาจต้องใช้เงินลงทุนมากขึ้น

เมื่อจ้างบริษัทออกแบบ Landing Page ราคาอาจเริ่มต้นตั้งแต่ 1,400 บาท ถึง 3,200 บาท ขึ้นอยู่กับขอบเขตของการออกแบบและการปรับแต่ง หากคุณมีไอเดีย Landing Page ที่ซับซ้อน ก็อาจต้องเตรียมงบไว้มากขึ้น

คุณสามารถตรวจสอบข้อมูลทั้งหมดเกี่ยวกับราคา Landing Page รวมถึงราคา Landing Page สำหรับโซเชียลมีเดียและ PPC ของ Uptle ได้จากตารางด้านบน

Landing Page เหล่านี้ถูกออกแบบมาเพื่อจุดกระแสไวรัลให้ลุกโชนในโลกออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็นบน Twitter, Facebook หรือที่ไหนๆ ก็ปังได้ ไม่ว่าจะเป็นบล็อกโพสต์สุดโดนใจ แหล่งรวมข้อมูลสุดครบครัน หรือข่าวด่วนในวงการ ทุกอย่างพร้อมจุดชนวนให้ผู้คนพูดถึงและพากันแห่มายังเว็บไซต์คุณแบบหยุดไม่อยู่ และ Landing Page ที่ออกแบบมาอย่างยอดเยี่ยมจะยังคงดึงดูดลูกค้ามายังเว็บไซต์คุณได้อย่างต่อเนื่อง แม้เวลาจะผ่านไปเป็นเดือน เป็นปี

Landing Page โซเชียลมีเดียที่ประสบความสำเร็จต้องมี 3 องค์ประกอบสำคัญ ได้แก่ เนื้อหาที่น่าสนใจ ความเกี่ยวข้อง และประโยชน์ใช้สอย ขาดแค่ข้อเดียวก็อาจต้องออกแบบกันใหม่ยกเซ็ต

Landing Page โซเชียลมีเดียที่ถูกบันทึกมากที่สุด มักมีเครื่องมือที่ผู้ใช้สามารถกลับมาใช้อ้างอิงได้ เพราะชาวโซเชียลไม่อยากพลาดเครื่องมือดีๆ ที่จะทำให้ชีวิตง่ายขึ้น ยิ่งมีเนื้อหาที่มีประโยชน์มากเท่าไหร่ ก็ยิ่งมีโอกาสถูกบันทึกและบอกต่อมากขึ้นเท่านั้น

การออกแบบ Landing Page โซเชียลมีเดียจะแตกต่างจาก Landing Page แบบ PPC ทั่วไป เพราะเป้าหมายนั้นต่างกัน แทนที่จะมุ่งเน้นการขาย แต่ Landing Page โซเชียลมีเดียจะมุ่งเน้นเปลี่ยนผู้เข้าชมให้กลายเป็นแฟนพันธุ์แท้ของเว็บไซต์คุณ

เมื่อคุณโพสต์ Landing Page โซเชียลมีเดียให้ผู้คนเห็นและแชร์ต่อ เว็บไซต์คุณก็จะถูกเชื่อมโยงซ้ำแล้วซ้ำเล่า กลายเป็นกุญแจสำคัญในการเพิ่มจำนวนผู้เข้าชมแบบฉุดไม่อยู่

Landing Page โซเชียลมีเดียจะแตกต่างจาก Landing Page แบบ PPC ตรงที่ต้องใช้คำหลักที่เฉพาะเจาะจง และมีการเชื่อมโยงไปยังหน้าอื่นๆ ภายในเว็บไซต์คุณ ยิ่งค้นหาเจอง่ายเท่าไหร่ ก็ยิ่งมีโอกาสถูกพบเจอ บันทึก และแชร์ต่อมากขึ้นเท่านั้น

Uptle พร้อมเนรมิต Landing Page สุดปังที่กระตุ้นยอดขายแบบสุดๆ เราใส่ใจทุกรายละเอียดตั้งแต่สีสัน กราฟิก การจัดวางเนื้อหา และอื่นๆ อีกมากมาย เพราะรู้ลึก รู้จริง ทั้งแนวทางปฏิบัติ เทรนด์ และพฤติกรรมผู้ใช้ พร้อมมอบ Landing Page ที่ปิดการขายให้คุณได้อย่างอยู่หมัด

โทรหาเราตอนนี้ที่ 083-090-8125 หรือติดต่อผ่านช่องทางออนไลน์ เพื่อเรียนรู้ว่าการออกแบบ Landing Page เฉพาะทางจะกระตุ้นยอดขาย เพิ่ม Conversion และดึงดูดลูกค้ามายังเว็บไซต์คุณได้อย่างไร

Landing Page ที่ดีต้องมอบประสบการณ์สุดว้าวที่มุ่งเน้นการขายสินค้าหรือบริการหนึ่งอย่างโดยเฉพาะ ถ้าอัดแน่นไปด้วยสินค้าหลายอย่าง ลูกค้าอาจสับสนและปิดการขายไม่ลง

เมื่อสร้าง Landing Page จงเลือกสินค้าหรือบริการที่คุณต้องการนำเสนอ และโฟกัสที่สิ่งนั้นเพียงอย่างเดียวเท่านั้น

ลองนึกภาพคุณเป็นเจ้าของบริษัทแอร์ที่กำลังโฆษณาบริการซ่อมฮีตเตอร์ในช่วงหน้าหนาว ลูกค้าที่กำลังมองหาช่างซ่อมฮีตเตอร์เห็นโฆษณาคุณและคลิกเข้ามา ถ้าเขาเจอข้อมูลเกี่ยวกับแอร์บน Landing Page แทน ก็อาจสับสนและเสียความสนใจไปในที่สุด

การมุ่งเน้นหนึ่งผลิตภัณฑ์หรือบริการคือกุญแจสำคัญสู่ความสำเร็จทั้งโฆษณา PPC และโฆษณาโซเชียลมีเดีย

ภาพและวิดีโอคืออาวุธลับที่ทรงพลังบน Landing Page เพราะช่วยกระตุ้นการมีส่วนร่วม แบ่งเนื้อหาไม่ให้ดูทึบตัน และนำสายตาลูกค้าไปยังจุดสำคัญบนเพจได้อย่างอยู่หมัด

แล้วควรใช้ภาพหรือวิดีโอแบบไหนดี?

โดยทั่วไป แนะนำให้เลือกใช้ภาพหรือวิดีโอเพียงหนึ่งชิ้น เพราะถ้าใส่มากเกินไป เพจจะดูรกและชวนปวดหัว จนลูกค้าอาจหลงลืมเป้าหมายของเพจไปได้

ภาพถ่ายคือตัวเลือกสุดคลาสสิกสำหรับ Landing Page ถ้าคุณขายสินค้า ก็โชว์ภาพสินค้าให้โดดเด่นเตะตา หรือจะใช้โอกาสนี้นำเสนอภาพสินค้าขณะใช้งานจริงก็ยิ่งเร้าใจ

ถ้าคุณให้บริการ ก็ลองใช้ภาพพนักงานในชุดยูนิฟอร์มสุดเท่ของบริษัทสิ และรู้ไหมว่าภาพคนนี่แหละคือตัวช่วยชั้นยอดในการนำสายตาลูกค้าไปยังข้อมูลสำคัญ

ลองจัดท่าทางให้คนในภาพชี้หรือหันหน้าไปทางข้อมูลสำคัญสิ สายตาลูกค้าจะมองตามไปโดยอัตโนมัติ และมุ่งความสนใจไปที่ข้อความสำคัญบนเพจได้อย่างแนบเนียน

หรือจะลองใช้วิดีโอก็ยิ่งแจ่ม เพราะวิดีโอทรงพลังสุดๆ บน Landing Page รู้ไหมว่าวิดีโอช่วยเพิ่ม Conversion บน Landing Page ได้ถึง 86% เชียวนะ

วิดีโอคือตัวช่วยชั้นยอดในการตรึงลูกค้าไว้บนเพจ พวกเขาจะชมวิดีโอเกี่ยวกับสินค้าหรือบริการคุณ และเรียนรู้เกี่ยวกับธุรกิจคุณมากขึ้น เรียกได้ว่าเป็นการเสริมสร้างการจดจำแบรนด์และแบ่งปันข้อมูลสำคัญกับลูกค้าอย่างรวดเร็วในคราวเดียว

ถ้าอยากได้ Landing Page ที่ทรงประสิทธิภาพ จงอย่าลืมใส่ภาพหรือวิดีโอเด็ดขาด เพราะนี่คือกุญแจสำคัญที่จะทำให้เพจคุณน่าสนใจและดึงดูดลูกค้า ยิ่งลูกค้าใช้เวลาบน Landing Page นานเท่าไหร่ ก็ยิ่งมีโอกาสเลือกธุรกิจคุณและตัดสินใจซื้อมากขึ้นเท่านั้น

หลายบริษัทชอบใส่ฟอร์มบน Landing Page เพื่อเก็บข้อมูลลูกค้า แต่ถ้าอยากมัดใจลูกค้าให้อยู่หมัด จงจำไว้ว่า ฟอร์มสั้นสะใจ ลูกค้ากดไว ไม่หนีหาย

เพราะลูกค้าไม่อยากเสียเวลากรอกฟอร์มยาวเหยียด ถ้าฟอร์มคุณยาวเกินไป ลูกค้าอาจโบกมือลาเอาง่ายๆ ทางที่ดีคือขอข้อมูลที่จำเป็นเพียงไม่กี่อย่างก็พอ

ส่วนใหญ่แค่ชื่อ นามสกุล และอีเมลก็เพียงพอสำหรับการเริ่มต้นติดต่อลูกค้าแล้ว เก็บข้อมูลอื่นๆ เพิ่มเติมผ่านแคมเปญอีเมลมาร์เก็ตติ้งในภายหลังก็ได้

เพียงเท่านี้ ลูกค้าก็จะกดส่งข้อมูลแบบไม่ลังเล ธุรกิจคุณก็จะได้ลูกค้าคุณภาพมาไว้ในมือแบบสบายๆ

เช่นเดียวกับกลยุทธ์การตลาดออนไลน์อื่นๆ Landing Page เป็นหน้าเพจที่มีภารกิจสำคัญ แต่มีเวลาเพียงเสี้ยววินาทีในการพิชิตใจลูกค้า เพราะ Landing Page คือปราการด่านแรกที่บอกเล่าตัวตนของธุรกิจคุณ ความน่าเชื่อถือของสินค้าหรือคอนเทนต์ รวมไปถึงวิธีรับข้อเสนอหรือแชร์คอนเทนต์ออกไป ยิ่งดีไซน์ปังเท่าไหร่ ก็ยิ่งปิดการขายได้เร็วเท่านั้น เรียกได้ว่าดีไซน์ของ Landing Page เปรียบเสมือนไม้เด็ดปิดการขายจากโฆษณาออนไลน์ หรือตัวจุดกระแสให้แบรนด์คุณกลายเป็นทอล์คออฟเดอะทาวน์

ถ้าดีไซน์ไม่โดนใจ ลูกค้าก็พร้อมโบกมือลาทันที เพราะชาวเน็ตยุคนี้ไม่มีเวลามานั่งเดาว่าธุรกิจคุณน่าเชื่อถือหรือเปล่า พวกเขาจะตัดสินทุกอย่างภายในพริบตา เพียงแค่เห็นดีไซน์ของ Landing Page

ลูกค้าก็ไม่มีเวลามานั่งเช็กว่าตัวเองหลงเข้ามาผิดเพจหรือเปล่า ถ้าดีไซน์ของ Landing Page ไม่สอดคล้องกับโฆษณาออนไลน์ หรือไปคนละทิศละทางกับคอนเทนต์บนเพจ ลูกค้าก็พร้อมเผ่นแน่บในทันที

ดังนั้น ดีไซน์และคำโฆษณาบน Landing Page คุณต้องทรงพลัง ชัดเจน และกระชับ เพื่อกระตุ้นให้ลูกค้าอยากซื้อสินค้าหรือบริการ ดีไซน์ต้องดูเป็นมืออาชีพ สะท้อนตัวตนของแบรนด์ และสอดคล้องกับดีไซน์ของสินค้าหรือคอนเทนต์นั้นๆ เพจไหนที่รวมองค์ประกอบเหล่านี้ได้ครบถ้วนหรือถ้าหากคุณสนใจบริการเสริมที่พร้อมพาธุรกิจคุณเติบโตโดยไร้ขีดจำกัดกับ บริการออกแบบเว็บไซต์, บริการออกแบบเว็บไซต์ 30 วัน, บริการวิเคราะห์ UX

ปลุกพลังแคมเปญให้พุ่งทะยานด้วย Landing Page สุดเจ๋ง ออกแบบพิเศษเพื่อธุรกิจคุณโดยเฉพาะ ที่ Uptle เรามีผู้เชี่ยวชาญกว่า 200 ชีวิต พร้อมเนรมิต Landing Page ที่ใช่ ตรงใจธุรกิจคุณที่สุด ด้วยประสบการณ์กว่า 20 ปี วางใจได้เลยว่าความรู้และความสามารถของเราจะพาธุรกิจคุณไปสู่ความสำเร็จอย่างแน่นอน

ถ้าพร้อมแล้วที่จะพิชิตยอดขายด้วย Landing Page และโฆษณาสุดปัง ติดต่อเราทางออนไลน์ หรือโทรหาเราวันนี้ที่ 083-090-8125 เพื่อพูดคุยกับผู้เชี่ยวชาญด้านดีไซน์ Landing Page

ให้ Uptle ช่วยพาธุรกิจคุณทะยานสู่จุดสูงสุดไปด้วยกัน