• การพัฒนาซอฟต์แวร์
  • Seo และ Lead
  • เนื้อหา และ AR
  • สร้างสรรค์และ UX
  • พวกเราคือใคร

พิชิตยอดขายออนไลน์แบบมือโปร 6 ขั้นตอนสู่ความสำเร็จในปี 2024

พร้อมลุยตลาดออนไลน์แล้วใช่ไหม มาดู 6 ขั้นตอนสุดปัง ขายยังไงก็รุ่ง

1. เลือกสินค้าให้โดนใจ

ก่อนจะบุกตลาดออนไลน์ ต้องวางแผนธุรกิจให้แจ่ม แล้วเลือกสินค้าเด็ดโดนใจให้พร้อม

ถ้ามีหน้าร้านอยู่แล้วก็สบายบรื๋อ แต่ถ้าเพิ่งเริ่มธุรกิจ ก็ต้องคิดให้ดีว่าจะขายอะไรดีนะ

เคล็ดลับการเลือกสินค้าให้ปัง คือต้องดูความต้องการลูกค้า กำไรงามๆ และที่สำคัญต้องถูกใจเราด้วย

อยากรู้เทรนด์ไหนมาแรง ลูกค้าอยากได้อะไร มีเครื่องมือเด็ดๆ มาแนะนำเพียบ

  • Google Trends ตัวช่วยสุดเจ๋ง ส่องเทรนด์ฮอตฮิตติดกระแส ค้นหาคำที่คนกำลังสนใจ เกาะติดเทรนด์ก่อนใคร ขายของได้ไม่มีเอาต์
  • เครื่องมือค้นหาคีย์เวิร์ดสุดปัง อยากรู้ว่าคีย์เวิร์ดไหนเด็ด ลูกค้าค้นหาอะไรกัน ลองใช้ SEMrush หรือ Keywords ดูสิ ได้ไอเดียสินค้าใหม่ๆ เพียบ
  • เกาะติดทุกกระแสในโซเชียล ส่องโซเชียล เจาะลึกรีวิว ดูว่าลูกค้าคุยอะไรกัน บ่นปัญหาไหนอยู่ จะได้ปิ๊งไอเดียสินค้าโดนใจ ช่วยแก้ปัญหาลูกค้าได้ตรงจุด
  • ส่องคู่แข่งให้รู้ทัน แอบส่องร้านออนไลน์เจ้าดังๆ ว่าขายอะไรดี สินค้าไหนขายดีเป็นเทน้ำเทท่า จะได้จับเทรนด์ให้ทัน ขายดีไม่แพ้ใคร

อย่าลืมเช็กกำไรกันด้วยล่ะ ดูราคาสินค้าคู่แข่ง คำนวณต้นทุนการผลิตและค่าขนส่งให้ดี จะได้ขายของได้กำไรงามๆ

ขายของที่ตัวเองชอบก็สำคัญนะ เพราะความชอบจะทำให้เรามีไฟ ขายของออนไลน์ได้แบบไม่มีเบื่อ

2. เขียนแผนธุรกิจสุดว้าว

อยากขายของออนไลน์ให้ปัง ต้องมีแผนธุรกิจเจ๋งๆ ช่วยนำทางสู่ความสำเร็จ

ลองคิดถึงเรื่องเหล่านี้ดูนะ

  • เป้าหมายสุดยิ่งใหญ่ อยากไปถึงจุดไหน ตั้งเป้าหมายให้ชัด วัดผลได้ จะได้รู้ว่ามาถูกทางรึเปล่า
  • คู่แข่งตัวฉกาจ วิเคราะห์คู่แข่งให้ครบ ดูว่าเค้าขายยังไง เจอปัญหาอะไรบ้าง จะได้เรียนรู้กลยุทธ์เด็ดๆ แถมเตรียมรับมือกับความท้าทายได้ทัน
  • เจาะลึกลูกค้าเป้าหมาย ลูกค้าเราจะเป็นใคร ชอบอะไร อยากได้อะไร รู้ใจลูกค้าแล้ว จะได้ออกแบบสินค้า เว็บไซต์ และการตลาดได้โดนใจสุดๆ

3. เลือกทำเลทองให้ร้านออนไลน์สุดปัง

เตรียมสินค้าพร้อมแล้ว ก็ได้เวลามองหาทำเลทองสำหรับร้านออนไลน์ของเรากัน

ปี 2024 มีช่องทางการขายออนไลน์ให้เลือกเพียบ ไม่ว่าจะเป็นเว็บไซต์ส่วนตัว หรือตลาดออนไลน์ชื่อดัง ก็พร้อมให้คุณบุกตลาดได้อย่างสุดปัง

คู่มือของเราพร้อมเผยข้อดีข้อเสียของการขายบนแต่ละแพลตฟอร์ม รวมไปถึงเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซคุณเอง อย่าลืมศึกษาข้อมูลให้ดีก่อนตัดสินใจ

ถ้าอยากรู้ว่าแพลตฟอร์มไหนเหมาะที่สุดสำหรับธุรกิจคุณ ให้ Uptle ช่วยสิ ติดต่อผู้เชี่ยวชาญด้านอีคอมเมิร์ซของเราได้เลย

4. ขั้นตอนและวิธีการสร้างร้านค้าออนไลน์บนแพลตฟอร์มต่างๆ

ถึงเวลาเนรมิตร้านออนไลน์ในฝัน พร้อมลงสินค้าขายให้กระหน่ำยอดขายกันแล้ว

ถ้าเลือกขายบนตลาดออนไลน์ ก็แค่สร้างบัญชีแล้วตั้งค่าหน้าร้านให้พร้อมขายได้เลย

ถ้าอยากมีเว็บไซต์ของตัวเอง อย่าลืมเลือกชื่อโดเมนที่โดนใจ จำง่าย และสะท้อนแบรนด์คุณให้ชัดเจนนะ แพลตฟอร์มอย่าง Shopify จะช่วยให้คุณสร้างร้านออนไลน์ได้อย่างรวดเร็วทันใจ เหมาะสุดๆ ถ้าไม่มีพื้นฐานด้านเทคนิค

อยากรู้วิธีสร้างร้านออนไลน์บนแพลตฟอร์มต่างๆ เจาะลึกกันต่อในหัวข้อ 'เลือกทำเลทองให้ร้านออนไลน์สุดปัง' ได้เลย

อยากขายดีบนร้านออนไลน์ ต้องมีการดูแลและปรับปรุงอยู่เสมอ แนะนำให้ร่วมมือกับเอเจนซี่อีคอมเมิร์ซอย่าง Uptle เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

5. ตั้งค่าฟังก์ชันและกระบวนการอีคอมเมิร์ซให้พร้อม

ก่อนจะเปิดร้านออนไลน์ให้ปัง ต้องเตรียมฟังก์ชันและกระบวนการต่างๆ ให้พร้อม มาดูกันว่ามีอะไรบ้าง

ระบบชำระเงิน สะดวก ง่าย จ่ายคล่อง

อยากขายของออนไลน์ ต้องมีระบบชำระเงินที่ราบรื่นด้วยนะ

มีตัวเลือกมากมายสำหรับรับชำระเงินออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดบัญชีร้านค้า หรือใช้ตัวประมวลผลการชำระเงินอย่าง PayPal, Square หรือ Stripe

ช่องทางการขายที่คุณเลือกก็ส่งผลต่อระบบชำระเงินที่เหมาะสมด้วยนะ

อยากรู้ว่าระบบชำระเงินออนไลน์แบบไหนดีที่สุด มาดูคู่มือสุดเจ๋งของเราได้เลย

จัดส่งไว ไร้ปัญหา ลูกค้าประทับใจ

มาเลือกวิธีจัดส่งและกำหนดราคากันเถอะ

มีผู้ให้บริการจัดส่งมากมายให้เลือกตามประเทศคุณ ไม่ว่าจะเป็น USPS, FedEx, Canada Post, Royal Mail, AU Post และอื่นๆ อีกมากมาย

ส่งฟรีดึงดูดลูกค้าได้ดี แต่อย่าลืมคำนวณต้นทุนให้ดีด้วยนะ

ตลาดออนไลน์บางแห่ง เช่น Amazon มีบริการจัดส่งและจัดการสินค้า ช่วยให้คุณขายของออนไลน์ได้คล่องขึ้น

อย่าลืมเปรียบเทียบตัวเลือกและราคาต่างๆ ให้รอบคอบก่อนตัดสินใจเลือกช่องทางการขายนะ

ความปลอดภัย มั่นใจทุกการช็อป

ไม่ว่าจะขายที่ไหน ความปลอดภัยต้องมาก่อน ลูกค้าต้องช็อปได้อย่างสบายใจ ไร้กังวล ยอดขายถึงจะปัง

เลือกใช้ระบบชำระเงินที่ปลอดภัยสูง และติดตั้ง SSL Certificate ให้เว็บไซต์ เพื่อปกป้องข้อมูลลูกค้าอย่างมั่นใจ

ข้อกำหนดและนโยบาย เคลียร์ชัดทุกประเด็น

เตรียมเอกสารสำคัญให้พร้อมบนเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซคุณ ไม่ว่าจะเป็น

  • เงื่อนไขการใช้งาน กำหนดกฎกติกาการใช้งานเว็บไซต์อย่างชัดเจน ปกป้องธุรกิจคุณอย่างถูกต้องตามกฎหมาย
  • นโยบายความเป็นส่วนตัว ปกป้องข้อมูลลูกค้า สร้างความเชื่อมั่น เสริมภาพลักษณ์ธุรกิจที่น่าเชื่อถือ
  • นโยบายการคืนสินค้า บอกลูกค้าให้ชัดว่าคืนสินค้าได้ในกรณีไหน ต้องทำอย่างไร ช่วยสร้างความมั่นใจให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อได้ง่ายขึ้น

ใบอนุญาตพร้อม ธุรกิจฉลุย

อย่าลืมตรวจสอบใบอนุญาตที่จำเป็นสำหรับธุรกิจออนไลน์คุณด้วยนะ ศึกษากฎหมายท้องถิ่น ระดับรัฐ และระดับประเทศให้ดี จะได้ไม่พลาด

บริการลูกค้าประทับใจ สร้างฐานแฟนคลับ

ช่องทางติดต่อต้องชัดเจน ตอบไว ใส่ใจทุกปัญหา ให้ลูกค้าประทับใจไม่รู้ลืม

อยากรู้เคล็ดลับอื่นๆ ก่อนเปิดร้านออนไลน์ให้ปังสุดๆ มาดูเช็กลิสต์สุดเจ๋งของเราได้เลย

6. ปลุกกระแสให้ร้านออนไลน์สุดปัง ดังกระหึ่มโลก

ได้เวลาปลุกกระแสให้ร้านออนไลน์คุณดังกระหึ่ม ให้ลูกค้าเจอร้านคุณได้ง่าย พร้อมช็อปกระจาย

ต่อให้ร้านสวยเริ่ด สินค้าดีสุดยอดแค่ไหน ถ้าขาดการโปรโมทและปรับแต่งให้โดนใจ ก็ยากที่จะมีคนเจอร้านออนไลน์หรือโปรไฟล์คุณบนตลาดออนไลน์ชื่อดัง

การตลาดคือหัวใจสำคัญของการขายของออนไลน์ ลงทุนกับบริการดิจิทัลมาร์เก็ตติ้งอย่าง SEO และการดูแลเว็บไซต์ เพื่อปูทางสู่ความสำเร็จในระยะยาวกันเถอะ

อยากได้คู่หูดิจิทัลมาร์เก็ตติ้งที่พร้อมพายอดขายออนไลน์ทะยานสู่จุดสูงสุด? โทรหา Uptle ที่ 888-256-9448 หรือติดต่อเราทางออนไลน์ เพื่อค้นหาว่าโซลูชั่นอีคอมเมิร์ซของเราจะพาธุรกิจคุณเติบโตได้อย่างไร

พร้อมที่จะเติบโต? รับใบเสนอราคาฟรีวันนี้!

นักออกแบบเว็บไซต์และนักพัฒนาเว็บของเราตลอดจนนักวางกลยุทธ์ดิจิทัลได้เปิดตัวไซต์มากกว่า 1,000 แห่งและทำงานร่วมกับลูกค้าในหลากหลายอุตสาหกรรมตั้งแต่การผลิตไปจนถึงการค้าปลีกไปจนถึงการดูแลสุขภาพ ไม่ต้องพูดถึงเราช่วยให้ลูกค้าของเรามีรายได้มากกว่า 1.5 พันล้านบาทในช่วงห้าปีที่ผ่านมาและยังคงช่วยให้ลูกค้าเติบโตทางธุรกิจ ขอใบเสนอราคาฟรีและดูว่า Uptle สามารถช่วยคุณได้อย่างไร

การเข้าชมเว็บไซต์เพิ่มขึ้นโดย
+ 95%
เพิ่มอัตราการแปลงโดย
+ 37%
โอกาสในการขายที่เพิ่มขึ้นสร้างโดย
+ 60%

11 สุดยอดแพลตฟอร์มขายของออนไลน์

อยากขายของออนไลน์ให้ปังสุดขีด ห้ามพลาด 11 สุดยอดแพลตฟอร์มขายดี ที่พร้อมพาธุรกิจคุณทะยานสู่ความสำเร็จ

เจาะลึกทุกรายละเอียดของแพลตฟอร์มขายของออนไลน์สุดปัง พร้อมข้อมูลครบครัน ไม่ว่าจะเป็น

  • ข้อดี
  • ข้อเสีย
  • ค่าใช้จ่าย
  • ตัวเลือกโฆษณา
  • ตัวเลือกการจัดส่ง
  • วิธีเริ่มต้นใช้งาน

รู้หรือไม่? การขายของบนหลายแพลตฟอร์มพร้อมกัน ช่วยเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงลูกค้าได้มากกว่า ถ้ามีทั้งเว็บไซต์ของตัวเองและหน้าร้านบน Amazon รับรองว่ายอดขายพุ่งกระฉูดแน่นอน

เจาะลึกเคล็ดลับดิจิทัลมาร์เก็ตติ้งขั้นเทพ จากกูรู Uptle

คลังคู่มือฟรีสุดเจ๋ง พร้อมช่วยคุณวางแผนกลยุทธ์ดิจิทัลมาร์เก็ตติ้งขั้นเทพ

เปิดประตูสู่ 11 ตลาดออนไลน์ชั้นนำ

รู้วิธีขายของออนไลน์แล้ว พร้อมรู้จักแพลตฟอร์มเด็ดๆ กันไปแล้ว คราวนี้มาเจาะลึกทุกซอกทุกมุม ค้นหาคำตอบว่าขายที่ไหนดี และขายยังไงให้ปังกับแต่ละแพลตฟอร์ม อยากพุ่งตรงไปแพลตฟอร์มไหน คลิกลิงก์ด้านล่างได้เลย

Amazon Marketplace ครองแชมป์ สุดยอดแพลตฟอร์มขายดี 2024

Amazon Marketplace คว้าอันดับหนึ่งสุดยอดแพลตฟอร์มขายดีประจำปี 2024

ในสหรัฐอเมริกามีธุรกิจขนาดเล็กและขนาดกลางกว่า 1 ล้านรายที่ขายบน Amazon Marketplace เรียบร้อยแล้ว

เริ่มต้นขายบนแพลตฟอร์มนี้ได้ง่ายสุดๆ พร้อมเปิดโอกาสให้ลูกค้าเห็นสินค้าคุณได้อย่างรวดเร็ว ปังๆ

ขายของบน Amazon Marketplace ยังไงให้ปัง?

อยากรู้วิธีขายของออนไลน์บน Amazon Marketplace รึเปล่า? มาดูขั้นตอนง่ายๆ กันเลย

  • เลือกสินค้าสุดปัง Amazon มีสินค้าให้เลือกกว่า 40 หมวดหมู่ และยังมีหมวดหมู่พิเศษอีก 10 หมวดสำหรับ Professional Sellers โดยเฉพาะด้วยนะ
  • เลือกแผนขายที่ใช่ Amazon มีแผนขายให้เลือกสองแบบ เดี๋ยวมาดูกัน
  • สร้างบัญชีให้พร้อม เข้าไปที่ Seller Central เพื่อสร้างบัญชีและจัดการการขายคุณได้อย่างสะดวกสุดๆ
  • ลงสินค้าให้ปัง Individual Sellers สามารถลงสินค้าทีละชิ้นได้ ส่วน Professional Sellers สามารถลงสินค้าแบบยกโหลได้ สะดวกสุดๆ

ถ้าจะลงสินค้าที่มีอยู่แล้วบน Amazon.com ต้องระบุข้อมูลเหล่านี้ด้วยนะ:

  • จำนวนสินค้า
  • สภาพสินค้า
  • ตัวเลือกการจัดส่ง

ถ้าจะลงสินค้าใหม่ที่ยังไม่เคยมีบนแพลตฟอร์ม อย่าลืมระบุ UPC/EAN และ SKU รวมทั้งใส่ข้อมูลสินค้าให้ครบถ้วน ทั้งชื่อสินค้า คำอธิบาย และรายละเอียดอื่นๆ ด้วยนะ

  • เริ่มขายให้ปัง รับเงินเข้าบัญชีธนาคารโดยตรง พร้อมรับอีเมลแจ้งเตือนเมื่อได้รับเงิน
  • จัดส่งสินค้าให้ไว รับการแจ้งเตือนจาก Amazon เมื่อลูกค้าสั่งซื้อ เลือกใช้ Fulfillment by Amazon (FBA) ให้ Amazon จัดการการจัดส่งให้ หรือจะจัดส่งเองก็ยังได้
  • รับเงินเข้ารัวๆ Amazon จะโอนเงินเข้าบัญชีธนาคารคุณตามรอบที่กำหนด พร้อมแจ้งเตือนทุกครั้งที่โอนเงิน

เจาะลึกค่าใช้จ่ายบน Amazon Marketplace คุ้มค่าคุ้มราคา

Amazon มีแผนขายให้เลือก 2 แบบด้วยกัน

SELLER PLANCOST
Individual Plan฿0.99/สินค้าที่ขายได้
Professional Plan฿39.99/เดือน

Individual Plan จ่ายเพียง ฿0.99 ต่อสินค้าที่ขายได้ พร้อมค่าธรรมเนียมเพิ่มเติม

Professional Plan ขายได้ไม่อั้น ในราคาเพียง ฿39.99/เดือน พร้อมค่าธรรมเนียมเพิ่มเติม

ถ้าขายสินค้าน้อยชิ้น Individual Plan ก็เพียงพอแล้ว แต่ถ้าอยากลุยแบบเต็มสูบ Professional Plan ตอบโจทย์แน่นอน

เจาะลึกโฆษณาบน Amazon ปังสุดพลัง

Amazon มีโฆษณาเจ๋งๆ มากมาย ช่วยให้คุณเข้าถึงลูกค้าได้มากขึ้น พร้อมปลุกยอดขายให้พุ่งกระฉูด

มาดูกันเลยว่ามีอะไรบ้าง:

  • Sponsored Products โฆษณาปรากฎในผลการค้นหาและหน้าสินค้า ช่วยเพิ่มการมองเห็นสินค้าแบบปังๆ
  • Sponsored Brands โฆษณาปรากฎในผลการค้นหา พร้อมโลโก้และข้อความโดนๆ ช่วยสร้างการจดจำแบรนด์แบบสุดๆ
  • Sponsored Display (เบต้า) ลงโฆษณาแบบบริการตัวเอง เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายทั้งบน Amazon และเว็บไซต์อื่นๆ ได้อย่างแม่นยำ
  • Stores สร้างหน้าร้านฟรีบน Amazon มัดใจลูกค้าให้อยู่หมัด
  • Display ads โฆษณาแบรนด์หรือสินค้าบนเว็บไซต์ แอป และอุปกรณ์ต่างๆ ทั้งบน Amazon และเว็บไซต์อื่นๆ
  • Video ads โฆษณาวิดีโอบนเว็บไซต์ของ Amazon อุปกรณ์ต่างๆ เช่น Fire tablets และทั่วทั้งอินเทอร์เน็ต
  • Custom ads สร้างสรรค์โฆษณาสุดล้ำ เพิ่มการจดจำแบรนด์แบบปังๆ
  • Amazon DSP แพลตฟอร์มซื้อโฆษณาขั้นเทพ ลงโฆษณาได้ทั้งในและนอก Amazon

เจาะลึกบริการจัดส่งของ Amazon สุดปัง

อยากส่งของบน Amazon Marketplace ใช่ไหม? เลือกได้เลยระหว่าง Fulfillment by Amazon (FBA) หรือ Merchant Fulfilled Network (MFN)

Fulfillment by Amazon (FBA) จัดส่งให้ถึงใจ

อยากขายของบน Amazon Marketplace แบบสบายๆ ต้องเลือก Fulfillment by Amazon (FBA) บริการจัดส่งสุดเจ๋งจาก Amazon

แค่ฝากสินค้าไว้ที่ศูนย์จัดส่งของ Amazon เมื่อมีลูกค้าสั่งซื้อ ทาง Amazon จะจัดการให้ทุกอย่าง ตั้งแต่หยิบของจากชั้น แพ็คของ ส่งของกันแบบครบวงจร

แถมบริการดูแลลูกค้าให้ด้วย สบายสุดๆ

ค่าบริการ FBA ขึ้นอยู่กับขนาดและน้ำหนักของสินค้า และต้องจ่ายค่าเก็บรักษาสินค้าในระยะสั้นและระยะยาวด้วย ยิ่งเก็บนาน ยิ่งจ่ายแพงนะ

มาดูกันดีกว่าว่า FBA มีอะไรเด็ดๆ บ้าง

  • ส่งฟรีแบบปังๆ สินค้า FBA ส่งฟรีแบบสองวันผ่าน Amazon Prime แถมยังส่งฟรีสำหรับคำสั่งซื้อที่ผ่านเกณฑ์อีกด้วย
  • บริการลูกค้าและรับคืนสินค้าให้ Amazon จัดการบริการลูกค้าและรับคืนสินค้าให้ สบายใจหายห่วง
  • โปรแกรมพิเศษสุดปัง FBA Subscribe & Save, FBA Small and Light, Multi-Channel Fulfillment และ FBA Export ช่วยเพิ่มยอดขายและกระตุ้นให้ลูกค้ากลับมาซื้อซ้ำแบบรัวๆ
  • เครื่องมือจัดการธุรกิจครบครัน ผู้ขาย FBA เข้าถึงบริการเสริมต่างๆ เช่น เตรียมสินค้า ติดป้ายชื่อ แพ็คของใหม่ และเลือกบริษัทขนส่งที่เป็นพาร์ทเนอร์กับ Amazon ได้อีกด้วย

เริ่มต้นใช้ FBA แบบง่ายๆ

อยากใช้ FBA ทำตามนี้ได้เลย

  • สมัคร FBA ถ้าขายของบน Amazon อยู่แล้ว แค่เพิ่ม FBA เข้าไปในบัญชีได้เลย
  • ลงรายการสินค้า เพิ่มสินค้าลงในแค็ตตาล็อกของ Amazon ได้ทั้งทีละชิ้น ลงเป็นกลุ่ม หรือเชื่อมต่อซอฟต์แวร์จัดการสินค้าเข้ากับ API ของ Amazon
  • เตรียมสินค้าให้พร้อม อย่าลืมเช็คข้อกำหนดการแพ็คของของ Amazon เพื่อให้สินค้าไปถึงศูนย์จัดส่งอย่างปลอดภัยนะจ๊ะ
  • ส่งสินค้าให้ Amazon สุดท้ายก็สร้างแผนการจัดส่ง พิมพ์ป้ายชื่อสินค้าของ Amazon แล้วส่งสินค้าไปที่ศูนย์จัดส่งได้เลย

ถ้าอยากเปลี่ยนสินค้าที่มีอยู่แล้วมาใช้ FBA ทำตามนี้ได้เลย

  • เข้าไปที่หน้า Manage Inventory แล้วเลือกสินค้าที่ต้องการขายผ่าน FBA
  • คลิก 'Change to Fulfilled by Amazon' ในเมนู 'Actions'
  • เลือก 'Convert & Send Inventory' เพื่อสร้างการจัดส่ง หรือเลือก 'Convert only' ถ้าอยากเพิ่มสินค้าเข้าไปอีก

ทางเลือกเด็ด ส่งเองแบบมั่นใจ กับ Merchant Fulfilled Network (MFN)

ไม่อยากใช้ FBA ใช่ไหม? เลือกส่งสินค้าผ่าน Merchant Fulfilled Network (MFN) หรือ Fulfilled by Merchant (FBM) ก็ได้ ชิลล์ๆ

MFN ให้อิสระคุณเต็มที่ อยากส่งจากบ้าน ออฟฟิศ หรือโกดัง ก็จัดไป แต่อย่าลืมนะว่าต้องจัดการทุกอย่างเอง ตั้งแต่หาของ แพ็คของ ส่งของ ไปจนถึงบริการลูกค้า สู้ๆ

รู้ลึกเรื่องการจัดส่งบน Amazon Marketplace กันแล้ว หลายคนคงมีคำถามว่า 'สรุปแล้ว ควรขายบน Amazon หรือเว็บไซต์ตัวเองดีนะ'

มาเจาะลึกจุดเด่นจุดด้อยของการขายบน Amazon Marketplace กันดีกว่า

เปิดศึก ขายบน Amazon vs เว็บไซต์ตัวเอง ใครปังกว่ากัน

มาเริ่มกันที่ข้อดีแบบเน้นๆ ของการขายของบน Amazon กันดีกว่า

จุดเด่นสุดปัง
  • ขายได้ทันที ไม่มีสะดุดAmazon Marketplace ให้อิสระคุณเต็มที่ อยากขายเมื่อไหร่ก็ขายได้ ไม่ต้องเสียเวลาสร้างเว็บไซต์ให้ยุ่งยาก แถมจัดการทุกอย่างได้ง่ายๆ ใน Seller Central อีกด้วย เริดสุดๆ
  • ลูกค้ามหาศาลรออยู่รู้ไหมว่าในแต่ละเดือน Amazon มีผู้เข้าชมกว่า 150 ล้านคนเลยนะ ถ้าเพิ่งเปิดเว็บไซต์ใหม่ หรือไม่ได้ทุ่มงบโฆษณา ก็ยากที่จะเรียกลูกค้าได้เท่านี้ ขายของบน Amazon สิ ลูกค้าเห็นเยอะกว่า ยอดขายก็ปังกว่าแน่นอน
  • จัดส่งสินค้าสบายๆ ให้มือโปรจัดการFBA ช่วยจัดการสต็อกและจัดส่งสินค้าให้แบบครบวงจร หมดกังวลเรื่องปวดหัวกับออเดอร์ล้นมือ สบายแบบนี้ มีแค่บน Amazon Marketplace เท่านั้นนะ
  • ปกป้องแบรนด์สุดรัก ไร้กังวลเรื่องสินค้าก็อปอุ่นใจได้กับ Amazon Brand Registry ไม่ปล่อยให้ใครมาลอกเลียนแบบสินค้าคุณได้ง่ายๆ อยากรู้วิธีปกป้องแบรนด์แบบมือโปร คลิกเลย บริการให้คำปรึกษา Amazon Brand Registry รอคุณอยู่
จุดด้อยที่ต้องรู้
  • คู่แข่งเยอะ ต้องสู้ให้สุดลูกค้าเยอะก็จริง แต่อย่าลืมว่าคู่แข่งก็เยอะไม่แพ้กัน ต้องงัดกลยุทธ์เด็ดๆ อย่าง Amazon SEO มาช่วยให้สินค้าคุณโดดเด่น ลูกค้าเห็นแล้วอยากซื้อทันที
  • ราคาสินค้าต้องเป๊ะ ห้ามพลาดคู่แข่งเยอะแบบนี้ ต้องหมั่นเช็คราคาสินค้าให้ดี ให้สู้กับเจ้าอื่นได้ เพราะถ้าขายแพงกว่า ลูกค้าก็พร้อมย้ายไปซื้อร้านอื่นทันที ยอดขายหาย รายได้หด เศร้าเลยนะ
  • ค่าธรรมเนียมจุกจิก ต้องคิดให้รอบคอบขายของบน Amazon เสียทั้งค่าธรรมเนียมรายเดือนและค่าธรรมเนียมการขายอื่นๆ ด้วยนะ อย่าลืมคิดค่าใช้จ่ายส่วนนี้ให้ดีก่อนตัดสินใจขาย เดี๋ยวกำไรหายหมดไม่รู้ตัว

บุกตลาด Amazon ให้สุด แหล่งข้อมูลเด็ดรอคุณอยู่

อยากรู้ลึกเรื่องการขายและการตลาดบน Amazon Marketplace ใช่ไหม มาดูแหล่งข้อมูลสุดเจ๋งจาก Uptle กันเลย

  • เจาะลึกกลยุทธ์ Amazon SEO ให้สินค้าปัง
  • คู่มือขายของบน Amazon ฉบับครบเครื่อง
  • เจาะลึกการตลาดบน Amazon สำหรับธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม
  • ขายของบน Amazon ดีจริงไหม? ธุรกิจ SME ต้องรู้

สรุปกันชัดๆ

อยากเพิ่มยอดขายออนไลน์แบบติดจรวด? ขายของบน Amazon สิ ตอบโจทย์ธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ไม่ว่าจะขายเสื้อผ้า ของใช้ในบ้าน อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ และอีกมากมาย

บุกตลาดยักษ์ใหญ่ Walmart Marketplace พร้อมให้คุณคว้าโอกาส

Walmart Marketplace ครองอันดับสองในทำเนียบตลาดออนไลน์สุดปัง

รู้ไหมว่าในอเมริกา คนกว่า 100 ล้านคนเข้าชม Walmart.com ทุกเดือนเลยนะ

ขายของบน Walmart Marketplace เท่ากับขยายฐานลูกค้าแบบทันใจ ยอดขายพุ่งกระฉูดแน่นอน

ขายของบน Walmart Marketplace ง่ายนิดเดียว

อยากขายบน Walmart Marketplace ต้องทำตามนี้เลย

  • กรอกใบสมัคร พร้อมข้อมูลธุรกิจและสินค้าให้ครบถ้วน
  • เซ็นสัญญาให้เรียบร้อย เซ็นสัญญา Retailer Agreement กับตัวแทนของ Walmart
  • สร้างโปรไฟล์ผู้ขายให้ปัง แล้วเชื่อมต่อบัญชีชำระเงินให้พร้อม
  • ผ่านขั้นตอนการเตรียมตัวให้ฉลุย เลือกวิธีเชื่อมต่อระบบ ลงสินค้า และทดสอบการสั่งซื้อให้เรียบร้อย
  • พร้อมลุย Walmart จะตรวจสอบรอบสุดท้ายก่อนไฟเขียวให้คุณเริ่มขายได้

ขายของบน Walmart Marketplace คุ้มจริงไหม?

ถึง Walmart ไม่เก็บค่าธรรมเนียมรายเดือน แต่มีค่าธรรมเนียมการขายประมาณ 6-20% ตามประเภทสินค้านะ

เช่น ถ้าขายเสื้อผ้าบน Walmart Marketplace ก็ต้องจ่ายค่าธรรมเนียม 15%

ไม่ต้องกังวลไป ก่อนเริ่มขายบน Walmart.com คุณจะได้ดูรายละเอียดค่าธรรมเนียมของแต่ละประเภทสินค้าในสัญญา Retailer Agreement ก่อนอยู่แล้ว

ปลุกยอดขายให้กระฉูด เจาะลึกโฆษณาบน Walmart Marketplace

ผู้ขายบน Marketplace สุดเจ๋งอย่างคุณก็มีโอกาสใช้ Sponsored Products ของ Walmart ได้นะ

แค่ทุ่มงบโฆษณาขั้นต่ำเดือนละ 1,000 บาท ก็สร้างโฆษณาเนียนๆ ให้ไปโผล่ในผลการค้นหา หน้าสินค้า หมวดหมู่สินค้า และหน้าอื่นๆ ให้ว่อนได้แล้ว

Sponsored Products ของ Walmart ช่วยดันสินค้าคุณให้เด่นแบบไม่ต้องจ่ายค่าวิว จ่ายแค่เมื่อลูกค้าคลิกโฆษณาเหมือน PPC เท่านั้น แถม Walmart ยังมีระบบช่วยเลือกเวลาและตำแหน่งโชว์โฆษณาให้ปังสุดๆ อีกต่างหาก

ถึงจะดูแลโฆษณาเองได้สบายๆ แต่ Walmart ก็มีบริการจัดการโฆษณาให้ด้วย ถ้าคุณทุ่มงบเกิน 25,000 บาทนะ

อยากใช้ Sponsored Products ของ Walmart ก็ต้องผ่านฉลุยจาก Walmart Media Group ก่อนนะ

อยากโฆษณาบน Walmart Marketplace ต้องทำตามนี้เลย

  • กรอกข้อมูลบริษัทเบื้องต้นเพื่อเช็คคุณสมบัติ
  • รอรับการยืนยันผ่านฉลุย
  • ล็อกอินที่ advertising.walmart.com แล้วเริ่มลุยโฆษณาได้เลย

ส่งของไว ได้ใจลูกค้า เจาะลึกตัวเลือกการจัดส่งบน Walmart Marketplace

Walmart Marketplace มีตัวเลือกการจัดส่งให้ฟินถึง 5 แบบ:

  • Value
  • Standard
  • Expedited
  • Next Day
  • Freight

แค่เลือกบริษัทขนส่ง ราคา และวิธีจัดส่งตอนสร้างโปรไฟล์ใน Seller Central ได้เลย

อย่าลืมนะว่า Walmart Marketplace กำหนดให้ใช้กล่องธรรมดา ไม่โชว์แบรนด์เด็ดขาด แถมห้ามใส่ของจากบริษัทอื่นนอกจาก Walmart ด้วย

ขายของบน Walmart Marketplace ได้เปรียบสุดๆ เพราะใช้ TwoDay Delivery ดึงดูดลูกค้าได้

อยากรู้ลึกกว่านี้ ไปดูข้อมูลการจัดส่งของ Walmart Marketplace กัน

ชั่งน้ำหนักให้ดี ขายบน Walmart Marketplace หรือเว็บตัวเองดีนะ

มาเจาะลึกจุดเด่นจุดด้อยของการขายบน Walmart Marketplace เทียบกับเว็บตัวเองกันดีกว่า

จุดเด่น
  • ไม่ต้องจ่ายค่าธรรมเนียมรายเดือนสุดยอดไปเลย Walmart ไม่เก็บค่าธรรมเนียมรายเดือน ค่าตั้งค่า ระบบสมาชิก หรือค่าลงสินค้าเหมือนเว็บขายของออนไลน์อื่นนะ
  • ส่งของไวทันใจด้วย TwoDay Deliveryขายของบน Walmart Marketplace ก็ใช้ TwoDay Delivery ได้นะ ลูกค้าเห็นแบบนี้มีหรือจะอดใจไหว
  • เจาะตลาดลูกค้ามหาศาลรู้ไหมว่า Walmart.com มีคนเข้าชมกว่า 100 ล้านคนทุกเดือนเลยนะ ขายของบนนี้รับรองว่ายอดขายพุ่งกระฉูดแน่นอน
จุดด้อย
  • มีค่าธรรมเนียมการขายถึง Walmart Marketplace ไม่เก็บค่าธรรมเนียมรายเดือน แต่ก็ยังต้องจ่ายค่าธรรมเนียมการขายนะ แถมบางทีสูงถึง 20% เชียวล่ะ
  • ต้องตั้งราคาให้โดนถึงจะกำหนดราคาสินค้าเองได้ แต่ก็ต้องตั้งราคาให้สู้ไหวทั้งกับคู่แข่งและสินค้าของ Walmart ด้วยนะ
  • อดโชว์แบรนด์บนกล่องส่งของขายของบน Walmart Marketplace ห้ามใช้กล่องหรือวัสดุโปรโมทแบรนด์ตัวเองนะ เสียดายสุดๆ

บุกตลาด Walmart ให้สุด แหล่งข้อมูลเด็ดรอคุณอยู่

อยากรู้ลึกเรื่องการขายและการตลาดบน Walmart Marketplace ใช่ไหม มาดูแหล่งข้อมูลสุดเจ๋งจาก Uptle กันเลย

  • เจาะลึก Walmart Marketplace ฉบับเข้าใจง่าย
  • ขายของบน Walmart Marketplace ให้ปังต้องทำไง?
  • คู่มือขายของบน Walmart Marketplace ฉบับครบเครื่อง

สรุปกันชัดๆ

อยากขยายตลาดออนไลน์และส่งของไวทันใจ ขายของบน Walmart สิ ตอบโจทย์ทั้งเสื้อผ้า เครื่องสำอาง อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ของกิน และอีกมากมาย

Shopify มาแล้ว อาวุธลับที่พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ห้ามพลาด

พร้อมลุยกันต่อกับ Shopify อีกหนึ่งขุนพลแห่งโลกออนไลน์ที่ครองใจพ่อค้าแม่ค้ามานับไม่ถ้วน

Shopify คือสุดยอดแพลตฟอร์มที่พร้อมช่วยให้คุณสร้าง ขยาย และบริหารธุรกิจได้อย่างครบวงจรในที่เดียว

บุกตลาดออนไลน์ด้วย Shopify ง่ายนิดเดียว

แค่ทำตามนี้ รับรองว่าปังแน่นอน

  • สมัครสมาชิก Shopify ให้ไว เข้าไปที่เว็บไซต์ของ Shopify แล้วสมัครสมาชิกเพื่อเริ่มทดลองใช้ฟรี 14 วันได้เลย
  • ตั้งชื่อร้านให้ปัง ปกติระบบจะตั้งชื่อร้านให้แบบ examplestore.myshopify.com แต่ถ้าอยากได้ชื่อเท่ๆ แบบ examplestore.com ก็แค่ซื้อโดเมนใหม่ หรือเชื่อมต่อโดเมนที่มีอยู่ได้เลย
  • เลือกธีมโดนใจ Shopify มีธีมให้เลือกเพียบทั้งฟรีและเสียเงิน เลือกที่ชอบแล้วปรับแต่งให้ร้านโดดเด่นไม่เหมือนใครได้เลย
  • ลงสินค้าให้พร้อมขาย ถ้ามีสินค้าไม่ถึง 5 ชิ้น ก็ลงข้อมูลชื่อ รายละเอียด ประเภท และรูปภาพได้เอง แต่ถ้ามีเยอะกว่านั้นก็แค่นำเข้าไฟล์ CSV ได้เลย ง่ายสุดๆ
  • เสริมทัพด้วยแอปและเครื่องมือเด็ดๆ Shopify มีเครื่องมือเจ๋งๆ มากมายที่จะช่วยขยายธุรกิจและเพิ่มยอดขายให้คุณ
  • ปลุกยอดขายให้กระฉูด อยากเพิ่มยอดขายให้พุ่งปรี๊ด ใช้บริการ SEO การสร้างรายชื่ออีเมล และโซเชียลมีเดียจาก Uptle สิ รับรองว่าปัง

ขายของบน Shopify คุ้มจริงไหม?

Shopify ให้ทดลองใช้ฟรี 14 วันแบบไม่ต้องใช้บัตรเครดิตด้วยนะ

หลังจากนั้น ก็เลือกแพ็กเกจที่เหมาะกับงบและเป้าหมายได้เลย

มีแพ็กเกจให้เลือกถึง 5 แบบ

SELLER PLANMONTHLY COST
Shopify Lite฿9
Basic Shopify฿29
Shopify฿79
Advanced Shopify฿299
Shopify Plusกำหนดราคาเอง

ส่วนใหญ่แล้ว ธุรกิจขนาดเล็กหรือขนาดกลางมักจะเลือกแพ็กเกจ Shopify หรือ Advanced Shopify ซึ่งราคาจะอยู่ที่ประมาณ 79-299 บาทต่อเดือน

ส่วนธุรกิจขนาดใหญ่ก็เหมาะกับแพ็กเกจ Shopify Plus แต่ต้องติดต่อบริษัทเพื่อขอราคาพิเศษนะ

หรือจะเลือกแพ็กเกจ Shopify Lite ขายของบน Facebook คุยกับลูกค้าผ่าน Facebook Messenger ก็ได้ แค่เดือนละ 9 บาทก็เพิ่มสินค้าลงเว็บหรือบล็อกและรับชำระเงินผ่านบัตรเครดิตได้เลย

ปลุกยอดขายให้กระฉูดด้วยโฆษณาสุดเจ๋งบน Shopify

Shopify ไม่ได้มีดีแค่เปิดร้านออนไลน์ แต่ยังมาพร้อมฟีเจอร์โฆษณาเด็ดๆ ไม่แพ้ Amazon เลยนะ

Google Smart Shopping ฉลาดเลือก เจาะกลุ่มเป้าหมายโดนใจ

Shopify เป็นแพลตฟอร์มแรกๆ ที่ผนึกกำลังกับ Google Smart Shopping สุดล้ำ ช่วยให้ Google ดึงข้อมูลสินค้าจากร้านคุณไปสร้างโฆษณาแบบอัตโนมัติได้ทันที

โฆษณาเหล่านี้จะแสดงให้กลุ่มเป้าหมายเห็นบน Google Search, Gmail, YouTube และ Google Display Network รับรองว่าโดนใจลูกค้าชัวร์

ยิ่งไปกว่านั้น ระบบอัจฉริยะของ Google ยังช่วยวิเคราะห์ผลลัพธ์และปรับโฆษณาให้ปังยิ่งขึ้นโดยอัตโนมัติ ให้คุณใช้งบโฆษณาได้อย่างคุ้มค่าสุดๆ

Facebook Carousel ads โชว์สินค้าแบบหมุนเวียน ดึงดูดทุกสายตา

นอกจากโฆษณาบน Google แล้ว Shopify ยังให้คุณสร้าง Facebook Carousel ads สุดเจ๋งได้โดยตรงในระบบด้วยนะ

โฆษณารูปแบบนี้จะโชว์สินค้าหรือรูปภาพได้ถึง 5 ชิ้น ดึงดูดความสนใจและสร้างการรับรู้ให้สินค้าคุณได้อย่างดีเยี่ยม

แถมยังติดตามผลลัพธ์โฆษณาบน Facebook ได้ทันทีใน Shopify อีกด้วย สะดวกสุดๆ

ส่งของไวทันใจด้วย Shopify Shipping

Shopify Shipping จัดเต็มด้วยบริการส่งของราคาพิเศษพร้อมใบจ่าหน้าพัสดุ ให้คุณเลือกผู้ให้บริการขนส่งได้ตามแพ็กเกจที่ใช้งาน

สำหรับพ่อค้าแม่ค้าในอเมริกา สามารถเลือกใช้บริการ USPS, UPS และ DHL Express ได้สบายๆ

ส่วนพ่อค้าแม่ค้าในแคนาดาก็ใช้บริการ Canada Post ได้ชิลๆ

มาดูขั้นตอนง่ายๆ กันเลย

  • เลือกผู้ให้บริการขนส่งที่ต้องการให้ลูกค้าเลือกตอนชำระเงิน
  • ให้ลูกค้าเลือกบริการขนส่งและความเร็วตอนชำระเงิน
  • รับชำระเงินค่าสินค้าและค่าส่ง
  • จัดการคำสั่งซื้อใน Shopify แล้วพิมพ์ใบจ่าหน้าพัสดุและใบปะหน้ากล่องให้เรียบร้อย
  • นำพัสดุไปส่งที่จุดบริการของผู้ให้บริการขนส่ง หรือนัดรับพัสดุได้เลย

Shopify Shipping ยังมีเครื่องมือเด็ดๆ อีกมากมายช่วยให้การส่งของเป็นเรื่องง่ายสุดๆ ผ่านระบบจัดการของ Shopify เอง ไม่ว่าจะซื้อใบจ่าหน้าพัสดุสำหรับคืนสินค้า หรือส่งให้ลูกค้าก็ทำได้สบายๆ

พ่อค้าแม่ค้าในอเมริกายังนัดรับพัสดุได้ด้วยนะ

ถ้าซื้อใบจ่าหน้าพัสดุของ UPS หรือ DHL Express ผ่าน Shopify Shipping ก็นัดรับพัสดุผ่านระบบจัดการได้เลย ง่ายสุดๆ

อย่าลืมว่าค่าส่งพัสดุจะคิดตามน้ำหนักของสินค้าและบรรจุภัณฑ์นะ สามารถกรอกข้อมูลในระบบจัดการของ Shopify แล้วซื้อและพิมพ์ใบจ่าหน้าพัสดุได้ทันที

ค่าส่งสุดท้ายจะขึ้นอยู่กับระยะทางและความเร็วในการจัดส่งที่ลูกค้าเลือกด้วยนะ

ชั่งน้ำหนักให้ดี ขายบน Shopify หรือเว็บตัวเองดีนะ?

จุดเด่น
  • สร้างร้านได้ไวทันใจ ไม่มีสะดุดShopify ออกแบบมาเพื่อมือใหม่โดยเฉพาะ ให้คุณเปิดร้านและขายของได้ทันทีแบบไม่ต้องง้อโปรแกรมเมอร์ แถมใช้ชื่อโดเมนเท่ๆ ของตัวเองได้อีกด้วยนะ
  • ออกแบบร้านให้สวยปังได้ตามใจShopify มีเครื่องมือสร้างร้านและธีมให้เลือกเพียบ ไม่ว่าจะอยากได้สไตล์ไหนก็เนรมิตได้ดั่งใจ รับรองว่าร้านโดดเด่นโดนใจ ลูกค้าเห็นแล้วอยากช้อปแน่นอน
  • ไม่ต้องปวดหัวเรื่องอัปเดตข้อดีของ Shopify คือไม่ต้องคอยอัปเดตซอฟต์แวร์หรือเซิร์ฟเวอร์เอง เพราะระบบจัดการให้หมด สบายใจได้เลยว่าจะขายของได้ลื่นไหลไม่มีสะดุด ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน ขอแค่มีเน็ตก็พอ
จุดด้อย
  • เสียค่าธรรมเนียมรายเดือนเช่นเดียวกับแพลตฟอร์มอื่นๆ Shopify มีค่าธรรมเนียมรายเดือนที่ต้องจ่ายด้วยนะ ลองชั่งน้ำหนักดูดีๆ ว่าคุ้มกว่าเปิดเว็บเองหรือเปล่า?
  • ฟีเจอร์เขียนคอนเทนต์ยังพื้นๆคอนเทนต์เด็ดๆ ช่วยเพิ่มยอดขายได้เยอะก็จริง แต่เครื่องมือเขียนบล็อกของ Shopify ยังทำได้ไม่เยอะเท่า WordPress นะ ถ้าเน้นคอนเทนต์หนักๆ อาจจะต้องคิดดูอีกที

บุกโลก Shopify ให้สุด แหล่งข้อมูลเด็ดๆ จาก Uptle

อยากรู้ลึกรู้จริงเรื่องขายของออนไลน์บน Shopify ห้ามพลาดข้อมูลดีๆ จาก Uptle

  • 4 เคล็ดลับเลือกเซียน SEO บน Shopify ให้ปัง
  • 6 แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซสุดเจ๋งสำหรับธุรกิจเล็กพริกขี้หนู
  • Uptle ออกแบบร้าน Shopify ให้สวยปัง ลูกค้าติดตรึม

สรุปกันชัดๆ

อยากเปิดร้านออนไลน์ง่ายสุดๆ แถมขายดิบขายดีแบบติดจรวด Shopify คือคำตอบที่ใช่สำหรับเหล่าธุรกิจเล็กใหญ่พร้อมสินค้าสุดแนว

Target Plus™ บุกตลาดออนไลน์แบบปังๆ ไปกับยักษ์ใหญ่วงการค้าปลีก

Target Plus™ เตรียมสะเทือนวงการอีคอมเมิร์ซ ครองตำแหน่งดาวรุ่งพุ่งแรงในการจัดอันดับตลาดออนไลน์

เหล่าพ่อค้าแม่ขายเตรียมเฮ เพราะ Target Plus™ เปิดประตูต้อนรับร้านค้า Third-party ให้มาร่วมขายบน Target.com กันแล้ว

แพลตฟอร์มใหม่แกะกล่องนี้พร้อมขยายทัพสินค้าบน Target.com ให้หลากหลายยิ่งกว่าเดิม ไม่ว่าจะของแต่งบ้าน ของเล่น อิเล็กทรอนิกส์ หรืออุปกรณ์กีฬา ก็พร้อมจัดเต็ม

อยากขายบน Target Plus™ ต้องรู้อะไรบ้าง?

อยากขายบน Target Plus™ ใช่ว่าจะทำได้ง่ายๆ เพราะที่นี่เขาคัดเฉพาะร้านค้าคุณภาพเท่านั้น

อยากเป็นคู่ค้ากับ Target ต้องยึดมั่นในคุณค่าของแบรนด์ ไม่ว่าจะ

  • ความหลากหลาย
  • ความยั่งยืน
  • การศึกษา
  • และอื่นๆ อีกมากมาย

อยากเข้าตาทีม Supplier Diversity ต้องทำยังไง? ง่ายนิดเดียว แค่กรอกแบบฟอร์ม Supplier Registration ให้ครบถ้วน

หรือจะลองติดต่อทีมงานจัดซื้อจัดหาดูก็ได้นะ ถ้าโปรไฟล์โดนใจ ทีมงาน Target จะส่งอีเมลเชิญให้ไปสร้างบัญชีบนพอร์ทัล Partners Online เอง

หลังจากนั้น Target จะตรวจสอบข้อมูลบริษัทคุณให้ชัวร์ก่อนอนุมัติ

อย่าลืมเตรียมลิสต์แบรนด์ที่คุณเป็นเจ้าของหรือมีใบอนุญาตจากเจ้าของลิขสิทธิ์ให้พร้อมด้วยนะ

ขายของบน Target Plus™ ต้องเสียค่าอะไรบ้าง?

เรื่องค่าธรรมเนียมและค่าคอมมิชชันบน Target Plus™ ยังเป็นความลับที่ Target อุบไว้อยู่

แต่ที่แน่ๆ เหล่าพ่อค้าแม่ขายต้องรับผิดชอบค่าจัดส่งและค่าใช้จ่ายอื่นๆ เองนะ

Target Plus™ จัดเต็มโฆษณา ให้สินค้าคุณเฉิดฉาย

อยากโปรโมทสินค้าให้ปัง Target จัดให้ พบกับ Roundel (หรือ Target Media Network เดิม) แพลตฟอร์มโฆษณาที่พาสินค้าคุณไปพบปะลูกค้า Target ได้อย่างตรงจุด

เหนือกว่าโฆษณาดิสเพลย์ทั่วไป Roundel พาแบรนด์คุณไปโลดแล่นบนเว็บไซต์ Target และช่องทางอื่น เช่น Pinterest, PopSugar และ NBCUniversal แม้แต่แบรนด์ที่ไม่ได้ขายในร้าน Target ก็โปรโมทได้

ปัจจุบัน Roundel ให้บริการหลากหลายธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นการเงิน ยานยนต์ ท่องเที่ยว และอีกมากมาย ลูกค้าตัวท็อปก็เพียบ ไม่ว่าจะเป็น Coca-Cola, Disney, Pepsi หรือ Mastercard

แต่เดี๋ยวก่อน Roundel อาจไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ไม่ต้องกังวลไป เพราะ Uptle พร้อมช่วยให้คุณเฉิดฉายบนตลาดออนไลน์อย่าง Target Plus™

อยากรู้รายละเอียดเพิ่มเติม คลิกเลย บริการจัดการและเพิ่มประสิทธิภาพบน Target Plus™ จาก Uptle

ส่งของไว คืนของง่าย สบายใจไปกับ Target Plus™

เหล่าพ่อค้าแม่ขายสบายใจได้ เพราะถึงแม้ต้องรับผิดชอบการส่งของเอง แต่ Target จัดการคืนสินค้าทั้งออนไลน์และหน้าร้านให้

อยากรู้ว่า Target Plus™ เหมาะกับธุรกิจคุณรึเปล่า? มาดูข้อดีข้อเสียกัน

ชั่งน้ำหนักให้ดี ขายบน Target Plus™ หรือเว็บตัวเองดีนะ?

จุดเด่น
  • มัดใจลูกค้าด้วยสิทธิประโยชน์สุดว้าวลูกค้า Target Plus™ รับส่วนลดทันที 5% เมื่อใช้ Target REDcard พร้อมส่งฟรีทุกออเดอร์ แถมคืนสินค้าง่ายทั้งในร้านและออนไลน์ สิทธิพิเศษแบบนี้ไม่มีบนเว็บคุณแน่ รับรองลูกค้าติดใจ กลับมาซื้อซ้ำรัวๆ
  • เข้าถึงลูกค้ามหาศาลในพริบตาTarget เป็นยักษ์ใหญ่วงการค้าปลีกอันดับสองของอเมริกา มีหน้าร้านกว่า 1,800 แห่งทั่วประเทศ แค่ขายบน Target Plus™ ก็เหมือนมีลูกค้าเดินเข้าร้านคุณไม่ขาดสาย แบรนด์ปัง ยอดขายพุ่งแน่นอน
จุดด้อย
  • ด่านแรกก็หินซะแล้วอยากขายบน Target Plus™ ใช่ว่าจะทำได้ง่ายๆ เพราะตอนนี้เขาเปิดให้เฉพาะร้านค้าที่ได้รับเชิญเท่านั้น ถึงจะกรอกแบบฟอร์ม Supplier Registration ไปแล้ว ก็ใช่ว่า Target จะตอบรับคุณเสมอไปนะ
  • มือใหม่หัดขายหลบไป ที่นี่ต้องการมือโปรTarget มองหาแต่ร้านค้าและสินค้าคุณภาพคับแก้ว แถมต้องยึดมั่นในคุณค่าของแบรนด์ด้วย ถ้าคุณเป็นสตาร์ทอัพหรือธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม อาจจะต้องเหนื่อยหน่อยกว่าจะตีตั๋วเข้า Target Plus™ ได้นะ

บุกตลาดออนไลน์แบบเซียน เจาะลึกทุกกลยุทธ์ Target Plus™ กับ Uptle

อยากรู้ลึกรู้จริงเรื่องขายของออนไลน์บน Target Plus™ ห้ามพลาดข้อมูลเด็ดๆ จาก Uptle

  • บริการจัดการและเพิ่มประสิทธิภาพบน Target Plus™ จาก Uptle

สรุปกันชัดๆ

อยากขยายธุรกิจให้ปังไกล ด้วยพลังของแบรนด์ยักษ์ใหญ่ Target Plus™ คือคำตอบที่ใช่สำหรับธุรกิจที่พร้อมลุย พร้อมขายสินค้าในหมวดของแต่งบ้าน ของเล่น อิเล็กทรอนิกส์ หรืออุปกรณ์กีฬา

eBay ปลุกพลังการขายให้ร้อนแรงบนตลาดออนไลน์ระดับโลก

eBay ครองตำแหน่งสุดยอดตลาดออนไลน์แห่งปี 2024 ที่ไม่ว่าใครก็ขายได้ ขายดี ไม่ว่าจะรถ อิเล็กทรอนิกส์ อุปกรณ์กีฬา หรืออะไรก็ขายได้ โกยยอดขายในประเทศกว่า 3.5 หมื่นล้านบาทต่อปี พร้อมชื่อเสียงกระหึ่มทั่วโลก

บุกตลาด eBay ง่ายนิดเดียว

อยากขายของบน eBay ต้องทำยังไง? มาดูขั้นตอนง่ายๆ กันเลย

  • สร้างบัญชีให้พร้อม สมัครสมาชิก eBay เพื่อเริ่มต้นการขาย
  • มุ่งหน้าสู่ 'ขาย' คลิก 'ขาย' ที่ด้านบนของหน้า eBay หรือไปที่ 'ขายสินค้าคุณ'
  • ลงสินค้าให้ปัง สร้างและเผยแพร่รายการสินค้าคุณให้โดดเด่น
  • ยืนยันข้อมูลแล้วลุยเลย ระหว่างนี้ อย่าลืมเพิ่มวิธีการชำระเงินอัตโนมัติสำหรับค่าธรรมเนียม eBay ด้วยล่ะ

ขายของบน eBay เสียค่าอะไรบ้าง?

พ่อค้าแม่ค้า eBay เตรียมจ่ายค่าธรรมเนียมหลักๆ สองอย่าง ได้แก่ ค่าธรรมเนียมลงสินค้าและค่าธรรมเนียมมูลค่าขั้นสุดท้าย

ค่าธรรมเนียมลงสินค้า

ทุกเดือน eBay จะแจกสินค้าฟรี 50 รายการให้กับคุณ จำนวนนี้อาจเพิ่มขึ้นอีกหากคุณมีร้าน eBay (จะพูดถึงรายละเอียดเพิ่มเติมในภายหลัง)

เมื่อคุณใช้สินค้าฟรีหมดแล้ว จะมีการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมการลงสินค้า ซึ่งครอบคลุมถึง:

  • คิดตามหมวดหมู่และจำนวนรายการที่ลง
  • คิดทั้งตอนลงครั้งแรกและลงซ้ำทุกครั้ง
  • คิดตามจำนวนรายการถ้าลงประมูลสินค้าแบบเดียวกันหลายรายการ
  • คิดครั้งเดียวถ้าลงสินค้าหลายชิ้นในรายการเดียว

ค่าธรรมเนียมมูลค่าขั้นสุดท้าย

ค่าธรรมเนียมนี้คิดเป็นเปอร์เซ็นต์ของยอดขายรวม

บวกค่าจัดส่งและค่าธรรมเนียมอื่นๆ ด้วย

จะโดนชาร์จเท่าไหร่ ขึ้นอยู่กับปัจจัยเหล่านี้

  • ราคาสินค้า
  • รูปแบบสินค้า
  • หมวดหมู่สินค้า
  • การอัปเกรดรายการสินค้า
  • พฤติกรรมและผลงานของผู้ขาย

ปลดล็อกขุมพลังการขาย สู่อาณาจักร eBay Store

อยากลดค่าธรรมเนียม ได้ลงสินค้าฟรีเพิ่มทุกเดือน แถมเครื่องมือจัดการร้านแบบมือโปรอีกเพียบ? เพียงเปิด eBay Store ก็พร้อมรับสิทธิพิเศษจัดเต็มทันที

แต่ก่อนจะเปิดร้าน อย่าลืมเตรียมบัญชีผู้ขาย eBay พร้อมตั้งค่าชำระเงินอัตโนมัติด้วยนะ

อยากเปิดร้าน eBay Store แล้วใช่ไหม? ทำตามนี้เลย

  • ไปที่ 'บัญชี' ใน My eBay
  • เลือก 'การสมัครสมาชิก'
  • เลือก 'เลือกร้านค้า'
  • เลือกประเภทร้านค้าที่ต้องการ แล้วกด 'เลือกและตรวจสอบ'
  • เลือกระยะเวลาการสมัคร (รายปีหรือรายเดือน) และตั้งชื่อร้านค้าเก๋ๆ โดนใจ
  • กด 'ส่งคำสั่งซื้อ' เพื่อสมัครสมาชิก eBay Store ได้เลย

ค่าสมัคร eBay Store เริ่มต้นเบาๆ แค่เดือนละ 4.95 บาท (สำหรับแผนรายปี) ไปจนถึง 2,999.95 บาท (สำหรับแผนรายปี) เท่านั้น

อยากเปิดร้านแบบไหน เลือกได้ตามใจชอบเลย

STORE TYPEMONTHLY RENEWAL COSTANNUAL RENEWAL COST
Starter7.95 บาท4.95 บาท
Basic27.95 บาท21.95 บาท
Premium74.95 บาท59.95 บาท
Anchor349.95 บาท299.95 บาท
Enterpriseไม่มี2,999.95 บาท

อยากรู้ว่าแผนไหนใช่ มาดูค่าสมัคร eBay Store แบบชัดๆ แล้วเลือกที่ใช่ให้ธุรกิจคุณกันเลย

โฆษณาบน eBay อาวุธลับพิชิตยอดขาย

อยากพิชิตเป้าหมายแบบมือโปร? eBay จัดให้ กับเครื่องมือโฆษณาสุดเจ๋ง ตอบโจทย์ทุกความต้องการ

ไม่ว่าคุณจะอยาก

ปลุกแบรนด์ให้สะเทือนวงการ ด้วยโฆษณา eBay สุดปัง

โฆษณา eBay เหล่านี้พร้อมจุดพลุให้แบรนด์คุณเป็นที่รู้จักในวงกว้าง

  • ยึดหน้าแรกให้อยู่หมัดทุ่มทุนคว้าพื้นที่เด่นบนหน้าแรกของ eBay ไปเลย
  • Super Nova Takeoverครองพื้นที่เหนือคู่แข่งแบบเต็มตา ทั้งบนสุดและพับแรก ทั่วทุกหน้าฮิตของ eBay ตลอด 24 ชั่วโมง
  • eBay Audience Platform – โซลูชันโฆษณาแบบดิสเพลย์และวิดีโอขยายฐานลูกค้าให้กว้างไกลผ่านเว็บไซต์พาร์ทเนอร์ระดับเทพ พร้อมใช้ข้อมูลนักช้อปจาก eBay เพิ่มประสิทธิภาพให้แคมเปญแบบสุดติ่ง

ปั้นแบรนด์ให้โดนใจ ให้ลูกค้าติดหนึบ

มัดใจลูกค้าให้นึกถึงแบรนด์และสินค้าคุณ ด้วยโฆษณาสุดเจ๋งจาก eBay

  • ยึดหน้าแรกหมวดหมู่ ให้ฮอตสุดในปฐพีกระตุ้นความสนใจลูกค้าที่กำลังเลือกซื้อสินค้าบน eBay ให้หันมามองแบรนด์คุณ
  • My eBay Billboardโฆษณาบิลด์บอร์ดออนไลน์ กระแทกใจลูกค้าแบบเน้นๆ
  • Checkout Success Pageเข้าถึงลูกค้าสุดฮอตพร้อมเปย์ทันทีที่ชำระเงินเสร็จ

ปิดการขายให้ถล่มทลาย สร้างลูกค้าแฮปปี้

คว้ายอดขายสุดปัง พร้อมสร้างลูกค้าสุดฟิน ด้วยโฆษณา eBay เหล่านี้

  • Search Results Pageกระตุ้นลูกค้าให้รีบซื้อทันที เมื่อค้นหาสินค้าโดนใจบน eBay
  • Order Details Pageเข้าถึงลูกค้านับล้านที่กำลังตัดสินใจซื้อ
  • Promoted Listingsปลดล็อกพื้นที่โฆษณาบนหน้าสุดฮิตของ eBay ทั้งหน้าค้นหาและหน้าสินค้า

ปลดล็อกขุมพลังส่งไว ทะยานสู่จักรวาล eBay

เมื่อขายของบน eBay ขั้นตอนจัดส่งสินค้าจะง่ายสุดๆ แค่ทำตามนี้

  • ตั้งค่าตัวเลือกการจัดส่งให้โดนใจ
  • ปริ้นท์ใบจ่าหน้าแบบมือโปร
  • แพ็คสินค้าให้พร้อมลุย
  • ติดตามสถานะแบบเรียลไทม์

อยากมัดใจลูกค้าให้อยู่หมัด จัดไป กับ 'Fast ‘N Free' ตัวเลือกส่งไวทะลุจักรวาลบน eBay

อยากเปิดใช้ฟีเจอร์นี้ ต้องผ่านด่านนี้ให้ได้ก่อนนะ

  • คุณและลูกค้าต้องอยู่ใน 48 รัฐหลักของสหรัฐอเมริกาเท่านั้น
  • eBay ต้องสามารถประเมินวันส่งถึงมือลูกค้าได้ภายใน 4 วันทำการ หรือน้อยกว่านั้น โดยคำนวนจากระยะเวลาเตรียมสินค้าคุณ บริการจัดส่งที่คุณเลือก ที่ตั้งร้านค้า และที่อยู่จัดส่งของลูกค้า
  • ต้องเสนอตัวเลือกส่งฟรีเป็นตัวเลือกเริ่มต้นเท่านั้น
  • ห้ามเสนอตัวเลือก 'รับสินค้าเอง' หรือ 'ขนส่งสินค้าขนาดใหญ่' เป็นตัวเลือกแรกเด็ดขาด
  • ห้ามลงขายแบบโฆษณาย่อยเด็ดขาด

ถ้าสินค้า Fast ‘N Free เกิดส่งช้ากว่ากำหนด eBay ดูแลให้ พร้อมเสนอตัวเลือกสุดพิเศษให้ลูกค้า ดังนี้

  • คืนเงินค่าส่งให้เต็มๆ
  • แจกคูปองส่วนลดไปช้อปต่อบน eBay แบบจุกๆ
  • ฟรี ใบจ่าหน้าสำหรับคืนสินค้า (ถ้าร้านคุณรับคืนสินค้านะ)

อยากรู้ลึกรู้จริงเรื่องการจัดส่งบน eBay คลิกเลย คู่มือการจัดส่ง eBay และอัตราค่าส่งสำหรับร้านค้า

ยังลังเลอยู่ใช่มั้ยว่า eBay จะใช่สำหรับคุณหรือเปล่า? มาดูข้อดีข้อเสียกันก่อนดีกว่า

เปิดศึก eBay vs เว็บไซต์ตัวเอง เลือกขายที่ไหนปังกว่ากัน?

ข้อดี eBay เด็ดดวง
  • เปิดร้านไว ขายได้ทันใจอยากขายของแบบด่วนจี๋ ไม่ต้องรอรี ให้ eBay จัดให้ แค่ตั้งร้านบน eBay ก็พร้อมโกยกำไรได้ทันที
  • ลูกค้ามหาศาล รอช้อปกระจายครองตำแหน่งตลาดออนไลน์ใหญ่สุดอันดับ 2 ในอเมริกา ด้วยยอดผู้เข้าชมกว่า 106 ล้านคนต่อเดือน eBay คือขุมทรัพย์ลูกค้าชั้นดี ที่พร้อมเปย์คุณไม่อั้น
ข้อเสีย eBay ต้องรู้
  • ค่าธรรมเนียมต้องจ่าย อย่าได้พลาดเตรียมเปย์ค่าธรรมเนียมกันได้ ไม่ว่าจะเป็นค่าสมัครสมาชิก eBay Store รายเดือน หรือค่าธรรมเนียมลงขายสินค้าแต่ละชิ้น อย่าลืมคำนวณต้นทุนและกำไรให้ดี ก่อนตัดสินใจขายบน eBay นะ
  • คู่แข่งเพียบ ระวังเสียลูกค้าเปิดร้านง่าย ก็แปลว่าคู่แข่งแยะ เตรียมพร้อมรับมือศึกชิงลูกค้าบน eBay ด้วยการอัพเกรดร้านให้โดดเด่น โดนใจกว่าใคร ยอดขายพุ่งกระฉูดแน่นอน
  • บริหารร้านเองทุกขั้นตอน ต้องสตรองต่างจาก Amazon ที่มีตัวช่วยจัดการส่งของและคืนสินค้า แต่บน eBay คุณคือนายใหญ่ มีหน้าที่ดูแลทุกอย่างตั้งแต่ลงขายสินค้า สต็อกของ ส่งของ และอีกสารพัด เตรียมตัวเป็นพ่อค้าแม่ค้ามือโปรกันได้เลย

คู่มือ eBay ฉบับเซียน

อยากรู้ลึกรู้จริงเรื่องขายของบน eBay คลิกเลย รวมบทความเด็ดจาก Uptle

  • Amazon vs eBay เปิดศึกชิงบัลลังก์ ขายของที่ไหนปังสุด
  • เจาะลึกวิวัฒนาการอีคอมเมิร์ซ รู้ก่อน รวยก่อน

สรุปกันชัดๆ

อยากโกยลูกค้ามหาศาลแบบด่วนๆ eBay จัดให้ ไม่ว่าจะขายสินค้าไอที หรือของมือสอง ก็พร้อมโกยกำไรจุกๆ บน eBay

Etsy ตลาดนัดออนไลน์สุดฮิป มัดใจสายคราฟต์ โดนใจสายวินเทจ

Etsy เตรียมเขย่าวงการ เตรียมขึ้นแท่นตลาดออนไลน์สุดปังแห่งปี 2024

Etsy คือสวรรค์ของนักช้อปสายคราฟต์ สายวินเทจ และคนรักงาน DIY เพราะที่นี่รวมสินค้าทำมือสุดเก๋ไก๋จากทั่วโลกกว่า 39.4 ล้านชิ้น พร้อมขยายฐานลูกค้าให้ธุรกิจคุณแบบติดปีก ขายดียิ่งกว่าแจกฟรี

เปิดร้านบน Etsy ง่ายนิดเดียว

อยากขายของบน Etsy ต้องทำยังไง? มาดูขั้นตอนแบบด่วนจี๋กันได้เลย

  • สมัครสมาชิกให้ไวเลยจ้า อย่าลืมอ่านนโยบายร้านค้าของ Etsy ให้ละเอียดด้วยนะ จะได้ไม่พลาด
  • ตั้งค่าร้านให้โดนใจ เลือกภาษาที่ใช้ในร้าน ประเทศ และหน่วยเงินให้พร้อม
  • ตั้งชื่อร้านให้ปัง คิดชื่อร้านให้สะท้อนสไตล์ธุรกิจและแบรนด์คุณแบบสุดๆ
  • จัดสินค้าลงร้านให้ว้าว อัพโหลดรูปสินค้าสวยๆ พร้อมเขียนคำบรรยายสุดคูล ให้โดนใจลูกค้ากันไปเลย
  • เลือกวิธีรับเงินให้เป๊ะ Etsy รองรับวิธีรับเงินหลากหลายแบบ ไม่ว่าจะเป็น:

Etsy payments

PayPal

เช็คหรือธนาณัติ

  • ผูกบัตรเครดิตให้พร้อม บางประเทศอาจต้องผูกบัตรเครดิตก่อนเปิดร้านนะ
  • ตกแต่งร้านให้ว้าวไม่เหมือนใคร ทำได้หลายวิธี เช่น

เขียนประวัติร้านแบบคูลๆ

ตั้งค่านโยบายร้านค้าให้ชัดเจน

สร้างโปรไฟล์การจัดส่ง

เขียนส่วน 'เกี่ยวกับเรา' ให้โดนใจ

ใช้เครื่องมือโซเชียลของ Etsy ให้ปัง

และอื่นๆ อีกมากมาย รอให้คุณมาสร้างสรรค์

แค่นี้ร้าน Etsy สุดชิคคุณก็พร้อมขายของแล้วจ้า

ขายของบน Etsy เสียค่าอะไรบ้าง?

อยากขายของบน Etsy ต้องทำใจเรื่องค่าธรรมเนียมด้วยนะ มาดูกันชัดๆ ว่ามีอะไรบ้าง

เหล่าพ่อค้าแม่ค้าบน Etsy ต้องจ่ายค่าธรรมเนียมหลายอย่าง เช่น

FEECOST
ค่าลงขายสินค้า฿0.20 ต่อสินค้า 1 ชิ้น
ค่าต่ออายุสินค้าอัตโนมัติ฿0.20 ต่อสินค้า 1 ชิ้น (สินค้าบน Etsy จะหมดอายุทุก 4 เดือนนะจ๊ะ อย่าลืมต่ออายุล่ะ)
ค่าลงขายสินค้าแบบหลายชิ้น฿0.20 ต่อสินค้า 1 ชิ้นเพิ่มเติม เมื่อขายสินค้าแบบหลายชิ้นในรายการเดียว
ค่าลงขายสินค้าแบบส่วนตัว฿0.20 ต่อสินค้าแบบส่วนตัว 1 ชิ้น
ค่าป้ายจัดส่งสินค้าขึ้นอยู่กับตัวเลือกที่เลือกตอนซื้อป้ายจัดส่ง
ค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมจัดส่ง5% ของค่าจัดส่งสินค้าที่ระบุไว้
ค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรม5% ของราคาสินค้าทั้งหมด (รวมค่าจัดส่งและค่าห่อของขวัญ) ในสกุลเงินที่ระบุในรายการ
ค่าธรรมเนียม Square manual฿0.20 ต่อธุรกรรม เมื่อขายสินค้าแบบเจอหน้าโดยใช้ Square และสินค้านั้นไม่ได้ซิงค์จากคลังสินค้าในร้าน Etsy คุณ

อยากรู้ค่าธรรมเนียมแบบละเอียดยิบ คลิกดูรายการค่าธรรมเนียมของ Etsy ได้เลยจ้า ไม่มีกั๊ก

เปิดโหมดโปรโมทสินค้าให้ปัง ด้วยโฆษณา Etsy

Etsy ให้คุณโปรโมทสินค้าให้โดดเด่นทั้งบนเว็บไซต์ Etsy เอง รวมถึงในผลการค้นหา และบน Google ด้วยนะ เจ๋งไปเลย

อยากเปิดโหมดโปรโมทสินค้าต้องทำยังไง? มาดูขั้นตอนง่ายๆ กันเลย

  • ไปที่หน้าจัดการร้านค้า Etsy คุณ
  • คลิกที่เมนู 'การตลาด'
  • คลิกที่เมนู 'โฆษณา'
  • ตั้งค่างบประมาณรายวัน (จำนวนเงินสูงสุดที่คุณต้องการจ่ายสำหรับโฆษณาต่อวัน) Etsy กำหนดงบประมาณรายวันขั้นต่ำไว้ที่ ฿1 ส่วนงบประมาณรายวันสูงสุดคุณจะขึ้นอยู่กับค่าใช้จ่ายเฉลี่ย สถานะการชำระเงินปัจจุบัน และประวัติการชำระเงินคุณ
  • คลิก 'เริ่มโฆษณา' แล้วเตรียมรับลูกค้าได้เลยจ้า

ปกติแล้ว เมื่อเริ่มแคมเปญโฆษณาบน Etsy ระบบจะโปรโมทสินค้าทั้งหมดคุณโดยอัตโนมัติ

แต่ถ้าอยากเลือกโปรโมทเฉพาะบางรายการ ก็ทำได้ง่ายๆ ตามนี้เลย

  • จากเมนู 'โฆษณา' คลิก 'เปลี่ยนรายการที่โฆษณา'
  • เลือกเฉพาะรายการที่คุณต้องการโปรโมท
  • คลิก 'บันทึกการเปลี่ยนแปลง' เท่านี้ก็เรียบร้อย

บน Etsy คุณจะถูกเรียกเก็บเงินเมื่อมีคนคลิกโฆษณาคุณ Etsy จะคำนวณราคาต่อคลิก (CPC) ทั้งหมดคุณในแต่ละวัน และเพิ่มลงในบัญชีการชำระเงินคุณ

จั้มโบ้ ส่งของกับ Etsy ง่ายเว่อร์ ประหยัดเวอร์

Etsy จัดให้ ส่งของง่ายสบายกระเป๋า ผู้ขายปลื้ม เพราะมีบริการครบ ทั้งสร้างใบจ่าหน้าพัสดุ คำนวณค่าจัดส่ง และติดตามพัสดุได้แบบเรียลไทม์

ยิ่งกว่านั้น Etsy ยังมีบริการใบจ่าหน้าพัสดุสุดคุ้ม ให้คุณขายของตรงจากร้านผ่านขนส่งชั้นนำได้สบายๆ ไม่ว่าจะเป็น

  • USPS
  • FedEx
  • Canada Post

ว้าว คุ้มยิ่งกว่าคุ้ม ประหยัดค่าส่งได้มากถึง 30% กับใบจ่าหน้าพัสดุ Etsy

แค่ซื้อใบจ่าหน้าพัสดุ Etsy ก็จัดการแจ้งสถานะสินค้าว่าจัดส่งแล้วให้อัตโนมัติ สบายสุดๆ แค่พิมพ์ใบจ่าหน้า ห่อของ แล้วส่งได้เลย

อยากส่งของกับ Etsy เหรอ? ง่ายนิดเดียว

  • สร้างโปรไฟล์การจัดส่ง เพื่อกำหนดค่าจัดส่งสินค้าอัตโนมัติ ให้ทุกออเดอร์เป๊ะปัง
  • เพิ่มตัวเลือกติดตามพัสดุ ให้ลูกค้าสบายใจหายห่วง

อยากรู้รายละเอียดเพิ่มเติม คลิกดูข้อมูลการจัดส่งของ Etsy ได้เลยจ้า

ยังลังเลอยู่ใช่ไหม? ว่าจะขายบน Etsy หรือเว็บไซต์ของตัวเองดี?

มาดูข้อดีข้อเสียของการขายของออนไลน์บน Etsy กัน

เปิดศึก Etsy vs เว็บไซต์ตัวเอง ขายที่ไหนปังกว่ากัน?

ข้อดีของ Etsy
  • เจาะตลาดเฉพาะกลุ่มได้ตรงเป้าถ้าคุณขายสินค้าแฮนด์เมด วินเทจ หรืออุปกรณ์งานคราฟต์ Etsy คือคำตอบ เพราะ Etsy เป็นแหล่งรวมลูกค้าเป้าหมายคุณโดยเฉพาะ เพิ่มโอกาสในการขายได้แบบปังๆ
  • ส่งของง่าย สบายบรื๋อEtsy จัดเต็มบริการครบครัน ช่วยให้การแพ็คและส่งของเป็นเรื่องง่ายสุดๆ กังวลเรื่องค่าส่งใช่ไหม สบายใจได้เลย เพราะ Etsy มีส่วนลดค่าจัดส่งสุดคุ้ม ช่วยประหยัดได้อีกเพียบ
ข้อเสียของ Etsy
  • เสียค่าธรรมเนียมใช่แล้ว การขายของบน Etsy มีค่าธรรมเนียมหลายอย่าง อย่าลืมคำนวณงบประมาณและกำไรให้ดี เพื่อให้มั่นใจว่าการขายของบน Etsy คุ้มค่าสำหรับคุณจริงๆ
  • ตัวเลือกโฆษณาจำกัดถ้าเทียบกับแพลตฟอร์มอื่น Etsy มีตัวเลือกโฆษณาค่อนข้างน้อย ถ้าอยากได้โฆษณาแบบง่ายๆ ไม่ซับซ้อน Etsy ก็ตอบโจทย์อยู่นะ แต่ถ้าอยากเจาะจงกลุ่มเป้าหมายแบบขั้นเทพ อาจจะต้องมองหาตัวเลือกอื่นเพิ่มเติม

เกร็ดน่ารู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ Etsy

อยากรู้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการขายและการตลาดบน Etsy ไปดูแหล่งข้อมูลเจ๋งๆ จาก Uptle กันเลย

  • เปิดร้านขายออนไลน์ภายใน 1 ชั่วโมง (หรือเร็วกว่านั้น)
  • 6 เว็บไซต์สุดปังสำหรับขายผลงานศิลปะคุณ

สรุป

อยากเจาะกลุ่มลูกค้าเฉพาะและเพลิดเพลินกับระบบจัดส่งที่สะดวก Etsy คือตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับผู้ขายสินค้าแฮนด์เมด วินเทจ และอุปกรณ์งานคราฟต์

บุกตลาดอเมริกา โอกาสปังรอคุณอยู่ที่ Sears Marketplace

อยากโกอินเตอร์บุกตลาดอเมริกา ห้ามพลาด Sears Marketplace ตลาดออนไลน์สุดฮอตที่เปิดโอกาสให้ธุรกิจขนาดเล็กและขนาดกลางได้ขายสินค้าบน Sears.com และเปิดบูธในร้าน Sears ทั่วอเมริกา

เตรียมพบกับลูกค้านับล้านที่พร้อมช็อปบน Sears.com แล้วรึยัง?

ขายของบน Sears ง่ายนิดเดียว

อยากขายของบน Sears.com เหรอ ง่ายนิดเดียว เพียงแค่ทำตามนี้

  • กรอกใบสมัคร Sears Marketplace พร้อมข้อมูลธุรกิจและสินค้าคุณให้ครบถ้วน
  • ยืนยันที่อยู่ธุรกิจคุณ การขายของบน Sears Marketplace จำเป็นต้องมีที่อยู่ธุรกิจในอเมริกาเท่านั้นนะ
  • ยืนยันข้อมูลธุรกิจให้ถูกต้องครบถ้วน อย่าลืมเตรียม EIN หรือ SSN ที่ลงทะเบียนไว้กับที่อยู่ธุรกิจในอเมริกาด้วยล่ะ

เพื่อความชัวร์ อย่าลืมกรอกข้อมูลให้ครบถ้วน เพราะ Sears จะไม่รับประกันการติดต่อกลับหากข้อมูลไม่ครบนะ

ค่าธรรมเนียมการขายบน Sears

ค่าธรรมเนียมสุดคุ้มเพียง ฿39.99 ต่อเดือน พร้อมค่าคอมมิชชันเมื่อสินค้าขายได้

ค่าคอมมิชชันจะขึ้นอยู่กับประเภทสินค้า โดยอยู่ในช่วง 8-20% เช่น ถ้าคุณขายเสื้อผ้า ก็จ่ายค่าคอมมิชชันแค่ 15% เท่านั้น

ถ้าเลือกใช้บริการ FBS คุณก็จ่ายตามการใช้งานจริงแบบไม่มีข้อผูกมัดระยะยาว สบายใจได้เลย จ่ายแค่ค่าจัดเก็บและจัดส่งเท่านั้น

อยากรู้รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ FBS และค่าบริการ เลื่อนลงไปดูที่หัวข้อการจัดส่งได้เลยจ้า

สร้างโฆษณาสุดปังบน Sears มัดใจลูกค้าไม่ยั้ง

Sears จัดให้ สร้างโฆษณาโดนใจ เข้าถึงลูกค้านับล้านบน Sears.com ได้อย่างง่ายดาย

ด้วยจำนวนผู้เข้าชมกว่า 15 ล้านคนต่อเดือน Sears.com จึงเป็นพื้นที่สุดปังสำหรับธุรกิจที่ต้องการสร้างการรับรู้แบรนด์และกระตุ้นยอดขาย

พร้อมตะลุยโลกโฆษณาบน Sears รึยัง? มาดูตัวเลือกโฆษณาสุดเจ๋งกันก่อน

  • โฆษณาดิสเพลย์ ดึงดูดกลุ่มเป้าหมายด้วยโฆษณาดิสเพลย์บนหน้าเพจหมวดหมู่สินค้า หรือจะโชว์โฆษณาบนหน้าแรกของ Sears ที่มีคนดูกว่าล้านครั้งต่อวันก็ยิ่งปัง
  • โฆษณาสินค้าแนะนำ โชว์สินค้าเด็ดให้โดดเด่นเตะตา ด้วยโฆษณาที่แสดงตามการค้นหาและพฤติกรรมของลูกค้า เพิ่มโอกาสขายได้แบบสุดๆ
  • โชว์เคสแบรนด์ สร้างประสบการณ์สุดประทับใจให้ลูกค้าในทุกช่องทาง ด้วยโชว์เคสแบรนด์ที่มาพร้อมภาพเด่น ข้อความโปรโมชันโดนๆ และอีกมากมาย เรียกลูกค้าเข้าเว็บแบบปังๆ

อยากรู้รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวเลือกโฆษณาและค่าบริการ คลิกดูที่หน้า Advertise with Sears ได้เลยจ้า

จัดส่งสินค้ายังไงดีเมื่อขายบน Sears?

รู้ยัง Sears ยกเลิกบริการ Fulfilled by Sears ในปี 2024 แล้วนะจ๊ะ ตอนนี้ Sears จะแค่ดำเนินการคำสั่งซื้อและแจ้งข้อมูลที่จำเป็นให้ แต่คุณต้องจัดส่งสินค้าเองผ่านช่องทางขายของออนไลน์คุณ

อยากรู้ว่า Sears จะใช่ที่สำหรับคุณมั้ย? มาดูข้อดีข้อเสียของตลาดออนไลน์สุดฮอตแห่งนี้กัน

เปิดศึก Sears vs เว็บไซต์ตัวเอง ขายที่ไหนปังกว่ากัน?

ข้อดีของ Sears
  • ไม่มีข้อผูกมัดระยะยาวสบายใจได้เลย ขายของบน Sears.com หรือใช้ FBS ก็ยกเลิกได้ทุกเมื่อ ไม่ต้องกังวลเรื่องสัญญาผูกมัด ลองดูก่อนว่าเวิร์คมั้ยก็ไม่เสียหาย
  • เข้าถึงลูกค้ามหาศาลอย่างที่บอกไป Sears.com มีผู้เข้าชมกว่า 15 ล้านคนต่อเดือน อยากเข้าถึงลูกค้าแบบรวดเร็วทันใจ Sears.com และ FBS ช่วยคุณได้
  • จัดการคำสั่งซื้อได้ง่ายสุดๆสบายหายห่วง เพราะการตั้งค่าบัญชีและเริ่มขายบน Sears.com นั้นง่ายสุดๆ แถมยังมีระบบจัดการคำสั่งซื้อที่ใช้งานง่าย เหมาะกับมือใหม่สุดๆ
ข้อเสียของ Sears
  • คู่แข่งเยอะหน่อยอย่าลืมว่าบน Sears.com มีทั้งคู่แข่งในหมวดสินค้าเดียวกัน และสินค้าจาก Sears เองด้วย งานนี้ต้องหมั่นเช็คราคาและปรับแต่งสินค้าให้โดดเด่นอยู่เสมอนะ
  • ต้องมีที่อยู่ธุรกิจในอเมริกาการขายของบน Sears.com จำเป็นต้องมีที่อยู่ธุรกิจในอเมริกาเท่านั้น ถึงจะมีตัวเลือกสำหรับร้านค้าต่างชาติ แต่ก็มีข้อจำกัดอยู่บ้างนะ

สรุป

อยากเข้าถึงลูกค้าพร้อมช็อปแบบด่วนๆ Sears เหมาะสำหรับธุรกิจที่ขายเครื่องใช้ไฟฟ้า ของใช้ในบ้าน อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ และอื่นๆ อีกมากมาย

บุกตลาดจีน โอกาสทองรอคุณอยู่ที่ Alibaba

Alibaba เป็นบริษัทอีคอมเมิร์ซยักษ์ใหญ่จากจีนที่ให้บริการทั้งตลาดออนไลน์ ระบบชำระเงิน และบริการคลาวด์คอมพิวติ้ง

ถึง Alibaba จะไม่ใช่แพลตฟอร์มจากอเมริกา แต่เราก็อดไม่ได้ที่จะยกให้เป็นสุดยอดตลาดออนไลน์ เพราะครองส่วนแบ่งตลาดออนไลน์ในจีนกว่า 80% และมีมูลค่าธุรกรรมบนเว็บไซต์กว่า 1 ล้านล้านบาทเลยทีเดียว

ขายของบน Alibaba ง่ายนิดเดียว

อยากรู้ว่าขายของบน Alibaba หรือเว็บไซต์ตัวเองจะปังกว่ากัน? มาดูวิธีขายของบน Alibaba กันก่อนดีกว่า

เริ่มขายของบน Alibaba ง่ายๆ เพียงทำตามขั้นตอนเหล่านี้

  • สร้างบัญชีคุณบน Alibaba.com
  • เริ่มลงสินค้าได้เลย ไปที่ My Alibaba เพื่อเริ่มลงสินค้าได้ทันที
  • คุ้มครองการซื้อขายอย่างมั่นใจ ใช้ Trade Assurance ในการซื้อขายกับลูกค้าออนไลน์ เพื่อป้องกันการฉ้อโกงและคุ้มครองการซื้อขายได้อย่างมั่นใจ

ค่าธรรมเนียมการขายบน Alibaba

Alibaba มี Free Membership ที่ให้คุณ

  • ลงสินค้าได้ถึง 50 ชิ้น
  • สมัครรับ Trade Alert เพื่อรับอีเมลแจ้งเตือนคำขอซื้อล่าสุดจากลูกค้า

นอกจาก Free Membership แล้ว Alibaba ยังมี Global Gold Supplier Membership ที่ช่วยให้เข้าถึงลูกค้าได้มากขึ้นและเพิ่มความน่าเชื่อถือ

Global Gold Supplier สามารถเลือกแพ็กเกจได้ดังนี้

PACKAGEMONTHLY COSTSTARTUP FEE
Basic฿117 (ชำระรายปี)฿1000
Premium฿117 (ชำระรายปี)฿2800

ดูรายละเอียดแพ็กเกจและราคาของ Alibaba เพิ่มเติมได้ที่นี่

โฆษณาปังๆ บน Alibaba มัดใจลูกค้าไม่ยั้ง

Alibaba ยังมีตัวเลือกโฆษณามากมาย ช่วยให้คุณโปรโมทสินค้าให้โดดเด่นบนเว็บไซต์

อยากโฆษณาบน Alibaba ต้องทำอย่างไร? ทำตามนี้เลย

  • ลงชื่อเข้าใช้ My Alibaba
  • ไปที่ส่วน 'Products' และคลิก 'Display New Products'
  • กรอกชื่อสินค้าที่ต้องการโฆษณาและคลิก 'Search'
  • เลือกหมวดหมู่สินค้าให้ตรงจากเมนูและคลิก 'Next'
  • กรอกแบบฟอร์มและคลิก 'Submit'

สำหรับ Global Gold Supplier สามารถลงสินค้าได้ไม่จำกัดจำนวน

นอกจากนี้ คุณยังสามารถโฆษณาในอีเมล Trade Alert ซึ่งเป็นอีเมลอัปเดตข้อมูลสินค้ายอดนิยม คำขอซื้อ และข้อมูลผู้ขายจาก Alibaba

หากต้องการโฆษณาผ่านอีเมล Trade Alert

  • ลงชื่อเข้าใช้ My Alibaba ได้เลยจ้า
  • ไปที่ส่วน 'Products' แล้วคลิก 'Display a New Product' ได้เลย
  • กรอกแบบฟอร์มให้ครบ แล้วคลิก 'Submit' เท่านี้ก็เรียบร้อย

ส่งของทั่วโลกกับ Alibaba ง่ายนิดเดียว

Alibaba Logistics มีบริการจัดส่งสินค้าให้คุณเลือกสรร ไม่ว่าจะส่งด่วนทางอากาศ หรือส่งคุ้มทางทะเล ก็ตอบโจทย์ทุกความต้องการ

Air Express ส่งไวถึงใจ

ส่งของไปอเมริกาได้ทันใจภายใน 5-7 วัน แถมยังติดตามสถานะการสั่งซื้อได้แบบออนไลน์ คุ้มค่าสุดๆ

Sea Freight ทางเลือกขนส่งทางทะเล

มีให้เลือกถึง 2 แบบตามความต้องการ

  • Less-than-Container Load (LCL) อยากส่งของทางทะเลแบบประหยัด แต่สินค้าไม่เต็มตู้คอนเทนเนอร์? LCL คือคำตอบที่ใช่สำหรับคุณ
  • Full Container Load (FCL) ตัวเลือกสุดคุ้มสำหรับสินค้าปริมาณมาก เหมาตู้คอนเทนเนอร์ไปเลยจ้า

พิเศษสำหรับธุรกิจในอเมริกา Alibaba มอบสิทธิพิเศษในการปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านการจัดส่งสินค้าโดยเฉพาะ

อยากรู้ว่า Alibaba Logistics เหมาะกับธุรกิจคุณไหม คลิกเลยเพื่อเรียนรู้เพิ่มเติมและนัดหมายพูดคุยกับผู้เชี่ยวชาญ

ยังลังเลอยู่ใช่ไหมว่า Alibaba จะเป็นตลาดออนไลน์ที่ใช่สำหรับธุรกิจคุณหรือเปล่า?

มาดูข้อดีข้อเสียของการขายของบน Alibaba กัน

เปิดศึก Alibaba vs เว็บไซต์ตัวเอง ขายที่ไหนปังกว่ากัน?

ข้อดีของ Alibaba
  • เข้าถึงลูกค้ามหาศาล Alibaba มีผู้ซื้อกว่า 654 ล้านคนต่อปี บอกเลยว่าตลาดออนไลน์สุดฮอตแห่งนี้พร้อมพาสินค้าคุณไปพบกับลูกค้าอีกมากมายแบบก้าวกระโดด
  • เจาะตลาด B2B และ B2C ได้ในที่เดียว ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้าแฟชั่นหรือเครื่องจักรกล Alibaba ก็พร้อมเป็นสะพานเชื่อมคุณกับลูกค้าทั้ง B2B และ B2C ที่รอซื้อสินค้าคุณอยู่เพียบ
ข้อเสียของ Alibaba
  • มีอุปสรรคด้านการขนส่งมากกว่า ด้วยการดำเนินงานในจีนเป็นหลัก การขายของบน Alibaba อาจต้องเผชิญกับอุปสรรคด้านการขนส่งอยู่บ้าง ดังนั้น ต้องใส่ใจเรื่องราคาและอัตราแลกเปลี่ยนให้ดี เพื่อให้ได้ผลตอบแทนที่ดีที่สุด
  • อาจมีค่าขนส่งแพงกว่า ค่าขนส่งระหว่างประเทศอาจสูงขึ้นได้ ขึ้นอยู่กับตำแหน่งที่อยู่ของลูกค้า

สรุป

อยากเข้าถึงลูกค้า B2B และ B2C นับล้าน ที่พร้อมซื้อสินค้าคุณอยู่รึเปล่า? Alibaba ตอบโจทย์ธุรกิจคุณแน่นอน ไม่ว่าจะขายอะไรก็ปัง

Rakuten ครองตลาดออนไลน์ มัดใจลูกค้าทั่วโลกกว่า 1.3 พันล้าน

Rakuten ยืนหนึ่งในตลาดออนไลน์ระดับโลก มาพร้อมฐานลูกค้าสุดปังกว่า 1.3 พันล้านคนทั่วโลก

ถึงจะไม่ได้ปักหลักในอเมริกา แต่ Rakuten ก็พร้อมเสิร์ฟความฟินให้ลูกค้าในอเมริกากว่า 12 ล้านคน

ขายของบน Rakuten ง่ายนิดเดียว

อยากเป็นพ่อค้าแม่ค้าบน Rakuten ต้องทำยังไง? มาดูกันเลย

  • สมัครเลย กรอกข้อมูลธุรกิจคุณ ไม่ว่าจะเป็นยอดขายต่อปี ประเภทสินค้า และอื่นๆ ให้ครบถ้วน
  • รอรับการอนุมัติ เมื่อได้รับอนุมัติแล้ว ทีมงาน Launch Team ของ Rakuten จะคอยดูแลคุณตลอดขั้นตอนการเริ่มต้นขาย ซึ่งจะใช้เวลาประมาณ 3-10 วันทำการ ขึ้นอยู่กับจำนวนสินค้าคุณ

แบรนด์ดังบน Rakuten มีอะไรบ้าง มาดูตัวอย่างกัน

  • Lenovo
  • Puma
  • Office Depot
  • และอีกมากมาย

อยากรู้ข้อมูลเกี่ยวกับการขายของบน Rakuten เพิ่มเติม? คลิกเลย

ค่าธรรมเนียมการขายบน Rakuten

Rakuten คิดค่าธรรมเนียม 39 บาทต่อเดือน บวกกับค่าคอมมิชชั่นตามประเภทสินค้า และ 0.99 บาทต่อสินค้าที่ขายได้

ค่าคอมมิชชั่นจะอยู่ที่ 8-15% ขึ้นอยู่กับประเภทสินค้า ถ้าคุณขายเครื่องใช้ไฟฟ้า ค่าคอมมิชชั่นจะอยู่ที่ 8% แต่ถ้าขายเสื้อผ้า ค่าคอมมิชชั่นจะอยู่ที่ 15%

โฆษณาบน Rakuten มัดใจลูกค้าให้อยู่หมัด

เหมือนแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซอื่นๆ Rakuten ก็มีบริการโฆษณาที่ช่วยเพิ่มการมองเห็นแบรนด์และกระตุ้นยอดขาย

ถ้าคุณขายของบน Rakuten เรามีตัวช่วยเพิ่มการมองเห็นเพียบ

  • โฆษณาบนหน้าหลัก เข้าถึงลูกค้านับล้านต่อเดือน
  • โปรโมชันเงินคืนจาก Rakuten Cash Back
  • โปรโมตผ่านแอป Rakuten
  • เพิ่มการมองเห็นดีลเด็ดและโปรโมชันโดนๆ
  • แคมเปญอีเมลและ Cash Back เจาะกลุ่มเป้าหมาย
  • และอีกมากมาย

อยากลงโฆษณาบน Rakuten Marketplace หรือ Rakuten Marketplace Affiliate Program กรอกแบบฟอร์มติดต่อเราได้เลย

ตัวเลือกการจัดส่งของ Rakuten พร้อมให้คุณเลือกแล้ว ถึง 4 ระดับ

ในฐานะผู้ขายบน Rakuten คุณสามารถเลือกตัวเลือกการจัดส่งที่คุณต้องการให้ลูกค้าได้เอง โดยมีให้เลือกถึง 4 ระดับความรวดเร็ว

ผู้ขายบน Rakuten สามารถเลือกบริษัทขนส่งและตัวเลือกต่างๆ ได้ตามนี้

  • FedEx
  • FedEx Smart Post
  • Home Direct USA
  • SEKO Worldwide
  • UPS
  • UPS Mail Innovations
  • USPS
  • Vitran
  • และอีกมากมาย

เมื่อลูกค้าสั่งซื้อสินค้าจากคุณบน Rakuten คุณจะมีเวลา 2 วันในการจัดส่งสินค้า และอย่าลืมว่า Rakuten จะคิดค่าธรรมเนียมการขายจากราคาสินค้าทั้งหมด ซึ่งรวมถึงค่าจัดส่งและการจัดการด้วย

เปิดศึก Rakuten vs เว็บไซต์ตัวเอง ขายที่ไหนปังกว่ากัน?

ข้อดีของ Rakuten
  • ลูกค้าคุณเข้าถึงโปรแกรมสะสมคะแนนของ Rakuten ได้สมาชิก Rakuten จะได้รับคะแนน Rakuten Super Points® ทุกการสั่งซื้อ ซึ่งสามารถนำไปแลกเป็นส่วนลดในการสั่งซื้อครั้งต่อไปได้ แบบนี้ลูกค้าก็อยากกลับมาซื้อซ้ำแน่นอน
  • คุณสามารถเสนอสิทธิพิเศษให้ลูกค้าได้นักช้อปบน Rakuten จะได้รับเงินคืนสูงสุด 40% จากร้านค้ากว่า 2,500 ร้าน หรือผ่าน PayPal ซึ่งสิทธิพิเศษเหล่านี้จะช่วยกระตุ้นให้ลูกค้าซื้อและกลายเป็นลูกค้าประจำคุณ
  • คุณสามารถปรับแต่งหน้าร้านคุณได้เมื่อคุณขายบน Rakuten คุณสามารถปรับแต่งหน้าร้านให้เข้ากับเอกลักษณ์ของแบรนด์ และเพิ่มความโดดเด่นให้กับธุรกิจคุณได้
ข้อเสียของ Rakuten
  • มีอุปสรรคด้านการขนส่งเช่นเดียวกับ Alibaba Rakuten ไม่ได้ตั้งอยู่ในสหรัฐอเมริกา ดังนั้นคุณอาจต้องเผชิญกับปัญหาด้านโลจิสติกส์บางอย่างเมื่อขายสินค้าบนแพลตฟอร์ม
  • ธุรกิจคุณต้องตั้งอยู่ในสหรัฐอเมริกาRakuten รองรับการขายในสหรัฐอเมริกาเท่านั้น และผู้ขายจากต่างประเทศต้องมีคุณสมบัติตรงตามข้อกำหนดเฉพาะ
  • มีข้อจำกัดด้านราคาเมื่อขายบน Rakuten คุณจะต้องกำหนดราคาสินค้า รวมถึงค่าจัดส่ง ให้เท่ากับราคาที่คุณขายบนเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซคุณและช่องทางอื่นๆ

สรุป

อยากดึงดูดลูกค้าด้วยข้อเสนอและโปรโมชั่นสุดพิเศษใช่ไหม Rakuten เหมาะกับผู้ขายเสื้อผ้า อิเล็กทรอนิกส์ และของใช้ในบ้าน ที่ต้องการสร้างฐานลูกค้าประจำ

Facebook Marketplace เข้าถึงลูกค้ากว่า 800 ล้านคน

Facebook Marketplace แหล่งรวมสินค้าหลากหลายตั้งแต่เฟอร์นิเจอร์ เสื้อผ้า ไปจนถึงรถมือสอง มีผู้ใช้งานกว่า 800 ล้านคนต่อเดือนใน 70 ประเทศทั่วโลก

เดิมทีแพลตฟอร์มนี้ได้รับความนิยมในกลุ่มผู้ขายรายย่อย แต่ตอนนี้ Facebook ได้เริ่มเปิดตัว Marketplace for Business ฟีเจอร์ใหม่เพื่อปลดล็อกศักยภาพให้ธุรกิจ SMB ได้เฉิดฉาย

Marketplace for Business ช่วยให้คุณทำได้ดังนี้

  • โชว์สินค้าแบบจัดเต็มทั้งสินค้าปลีก บ้านเช่า ยานพาหนะ และตั๋วงานอีเวนต์
  • โฆษณาร้านค้าหรือสินค้าบน Marketplace แม้จะไม่ได้ขายตรงบนแพลตฟอร์ม
  • โชว์สินค้ามือหนึ่งหรือมือสองจาก Facebook Page shop ได้ฟรีบน Marketplace ให้ลูกค้าช้อปได้สะดวกสุดๆ โดยไม่ต้องออกจาก Facebook

วิธีลงขายบน Facebook Marketplace for Business

หากต้องการลงขายสินค้าบน Marketplace for Business คุณจะต้องร่วมมือกับพาร์ทเนอร์ตัวกลางเหล่านี้

  • BigCommerce
  • ChannelAdvisor
  • CommerceHub
  • Feedonomics
  • Quipt
  • ShipStation
  • Shopify
  • Zentail

Facebook แนะนำให้ติดต่อพาร์ทเนอร์โดยตรงเพื่อแจ้งความประสงค์ในการลงขายสินค้าบน Marketplace for Business

สินค้าทั้งหมดบน Marketplace ต้องเป็นไปตามนโยบายการค้าและมาตรฐานชุมชนของ Facebook

ย้ำกันอีกทีว่า Facebook กำลังทยอยเปิดตัว Marketplace for Business อยู่นะ อาจมีบางพื้นที่ที่ยังไม่พร้อมใช้งาน

ค่าใช้จ่ายในการลงขายบน Facebook Marketplace for Business

ความคุ้มค่าที่เร้าใจคือ Facebook ไม่เก็บค่าธรรมเนียมการลงขายสินค้าบน Marketplace

แต่อาจมีค่าธรรมเนียมเพิ่มเติมจากการใช้บริการพาร์ทเนอร์ของ Facebook นะ

ปลุกกระแสด้วยโฆษณาบน Facebook Marketplace for Business

คุณสามารถสร้างโฆษณาให้ปังบน Marketplace ด้วย Facebook Ads Manager ได้เลย

วิธีสร้างโฆษณาบน Marketplace มีดังนี้

  • ไปที่ Ads Manager และเลือกวัตถุประสงค์โฆษณา เช่น การรับรู้แบรนด์ การเข้าถึง การเข้าชม การรับชมวิดีโอ การสร้างลูกค้าเป้าหมาย การตอบสนองต่อกิจกรรม ข้อความ คอนเวอร์ชัน การขายแค็ตตาล็อก หรือการเข้าชมร้านค้า
  • เลือกปลายทาง
  • กำหนดกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการ
  • เลือกตำแหน่งการจัดวางโฆษณาแบบอัตโนมัติหรือแก้ไขตำแหน่งการจัดวาง โดย Facebook แนะนำให้ใช้แบบอัตโนมัติ เพราะ Marketplace ไม่มีให้บริการแบบเดี่ยวๆ ต้องรวมกับโฆษณาบน News Feed ด้วย ถ้าจะแก้ไขตำแหน่งการจัดวางเองก็อย่าลืมจุดนี้นะ
  • กำหนดงบประมาณและกำหนดเวลา
  • เลือกรูปแบบโฆษณา โดยสเปควิดีโอและรูปภาพจะเหมือนกับโฆษณาบน News Feed
  • คลิกเสร็จสิ้นและสั่งซื้อ

หลังจากโฆษณาผ่านการตรวจสอบแล้ว ก็จะไปปรากฏต่อสายตาลูกค้าใน Marketplace ทันที

ปลุกพลังส่งให้สุดใน Facebook Marketplace กระชากทุกออร์เดอร์ด้วยระบบจัดส่งสุดคล่องตัว

ผู้ขายบน Marketplace for Business มีหน้าที่รับผิดชอบการจัดส่งสินค้าเอง

หากต้องการลงขายบน Marketplace for Business ต้องทำตามเงื่อนไขดังนี้

  • ต้องจัดส่งสินค้าภายใน 3 วัน และลูกค้าต้องได้รับสินค้าภายใน 7 วัน
  • ต้องรับคืนสินค้าภายใน 30 วัน

เปิดศึก Marketplace for Business vs เว็บไซต์ตัวเอง ขายที่ไหนปังกว่ากัน?

ข้อดีของ Marketplace for Business
  • โชว์สินค้าจาก Facebook Page shop ได้ฟรีเพียงแค่เชื่อม Facebook Page shop เข้ากับ Marketplace for Business ก็โชว์สินค้าให้ลูกค้าเห็นแบบปังๆ กระตุ้นยอดขายได้ทันที
  • ลูกค้าช้อปได้สบาย ไม่ต้องออกจาก Facebookลูกค้าซื้อของได้ง่ายๆ บน Marketplace ไม่ต้องสลับแอปไปมาให้วุ่นวาย ปิดการขายได้ไว ยอดขายพุ่งกระฉูด
  • สร้างโฆษณาให้ร้านคุณเฉิดฉายเพิ่มการมองเห็นให้สินค้าคุณด้วยโฆษณาสุดครีเอทบน Marketplace ดึงดูดลูกค้าได้มากขึ้น ยอดขายก็ยิ่งปัง
ข้อเสียของ Marketplace for Business
  • คู่แข่งเยอะ ต้องสู้ให้สุดอย่าลืมว่าบน Marketplace มีผู้ขายมากมาย โดยเฉพาะสินค้าบางประเภทที่มีการแข่งขันสูง เตรียมกลยุทธ์ให้พร้อมแล้วลุยเลย
  • มีค่าธรรมเนียมจากพาร์ทเนอร์แม้ Facebook ไม่เก็บค่าธรรมเนียมการลงขาย แต่อาจมีค่าธรรมเนียมเพิ่มเติมจากพาร์ทเนอร์ที่ให้บริการเชื่อมระบบ

เจาะลึกทุกมุมของ Facebook Marketplace for Business

อยากรู้ข้อมูลเจาะลึกและเริ่มขายบน Facebook Marketplace for Business กันเลยไหม? คลิกดูแหล่งข้อมูลสุดปังจาก Uptle ได้เลย

  • โกยยอดขายทะลุเป้าด้วย Facebook Marketplace for Business

สรุป

อยากปลุกกระแสสินค้าให้ดังกระหึ่ม พร้อมให้ลูกค้าช้อปได้ทันใจบนโซเชียลมีเดียไหม Facebook Marketplace for Business ช่วยคุณได้ ลงขายได้หลากหลายทั้งสินค้าปลีก บ้านเช่า ยานพาหนะ และตั๋วงานอีเวนต์

ปลุกพลังธุรกิจให้สุดขั้ว บนเว็บไซต์คุณเอง

เราสำรวจตลาดออนไลน์สุดฮอตมาหมดแล้ว ถึงเวลาคว้าโอกาสทองบนเว็บไซต์คุณเอง

รู้ไหม? เว็บไซต์ธุรกิจขนาดเล็กกว่า 74% ยังไม่มีระบบอีคอมเมิร์ซ นั่นแปลว่าคุณมีโอกาสมหาศาลที่จะสร้างยอดขายกระฉูดบนพื้นที่ออนไลน์คุณ

ทะยานสู่โลกออนไลน์ด้วยเว็บไซต์สุดปัง

พร้อมหรือยังที่จะระเบิดพลังธุรกิจบนเว็บไซต์คุณ? มาดูวิธีกันเลย

ทำตามขั้นตอนเหล่านี้เพื่อเริ่มต้นขายบนเว็บไซต์คุณ

  • เลือกผู้ให้บริการเว็บไซต์
  • จดทะเบียนชื่อโดเมน
  • ออกแบบเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซให้โดนใจ
  • ติดตั้งใบรับรอง SSL เพื่อความปลอดภัยขั้นสุด
  • เปิดบัญชีร้านค้าออนไลน์เพื่อรับชำระเงิน
  • กำหนดราคาและลงสินค้าให้พร้อมขาย
  • วางระบบจัดการสินค้าคงคลังและการจัดส่ง
  • โปรโมตเว็บไซต์คุณด้วยบริการการตลาดดิจิทัล

การสร้างและเปิดตัวร้านค้าออนไลน์อาจดูท้าทาย แต่ Uptle พร้อมช่วยให้คุณก้าวผ่านทุกขั้นตอนได้อย่างมั่นใจ ติดต่อเราวันนี้เพื่อพูดคุยกับผู้เชี่ยวชาญและเริ่มต้นขายบนหน้าร้านออนไลน์ที่ออกแบบมาเพื่อคุณโดยเฉพาะ

ทุ่มทุนสร้างเว็บไซต์ คุ้มค่ายาวๆ

การขายบนเว็บไซต์คุณเองอาจต้องลงทุนในตอนแรก แต่สำหรับธุรกิจขนาดเล็กส่วนใหญ่ นี่แหละคือตัวเลือกที่ดีที่สุดในระยะยาว

ค่าใช้จ่ายหลักๆ ในการสร้างเว็บไซต์ได้แก่

ออกแบบ พัฒนา และดูแลเว็บไซต์

โดยเฉลี่ย คุณจะจ่ายประมาณ 12,000 - 150,000 บาท สำหรับการออกแบบและเปิดตัวเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซที่โดนใจ รวมถึงการบำรุงรักษารายเดือนตั้งแต่ 35 - 5,000 บาท

ค่าใช้จ่ายทั้งหมดขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ลองใช้เครื่องคำนวณราคาเว็บไซต์ของเราเพื่อประเมินค่าใช้จ่ายคร่าวๆ ได้เลย

อีคอมเมิร์ซ SEO พุ่งทะยานสู่อันดับหนึ่ง

หากคุณอยากสร้างผลลัพธ์ระยะยาวกับร้านค้าออนไลน์คุณ เราขอแนะนำให้ลงทุนกับกลยุทธ์ SEO ด้วย

Uptle ให้บริการ SEO อีคอมเมิร์ซที่เชี่ยวชาญ ตลอด 5 ปีที่ผ่านมา เราได้สร้างรายได้กว่า 1.5 พันล้านบาทและสร้างลูกค้าเป้าหมายกว่า 4.6 ล้านรายให้กับธุรกิจของลูกค้า

ที่ Uptle เราเข้าใจดีว่าเว็บไซต์ที่ประสบความสำเร็จต้องไม่เพียงแค่สวยงาม แต่ต้องใช้งานได้ดีและติดอันดับต้นๆ ในการค้นหาด้วย

เมื่อคุณเลือกเราเป็นคู่หูอีคอมเมิร์ซคุณ มั่นใจได้เลยว่าคุณจะได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด พร้อมรับมือกับจำนวนผู้เข้าชม ลูกค้าเป้าหมาย และรายได้ออนไลน์ที่เพิ่มขึ้น

ปลุกกระแสให้ปังสุดขีดด้วยโฆษณาออนไลน์

เตรียมจุดพลุให้ยอดขายทะยานด้วยโฆษณาออนไลน์ ไม่ว่าจะบน Google Ads หรือโซเชียลมีเดีย ก็พร้อมพาลูกค้าหลั่งไหลมายังเว็บไซต์คุณแบบไม่หยุด

โฆษณา PPC ขึ้นแท่นอันดับหนึ่งเหนือคู่แข่ง เรียกลูกค้าให้แห่กันมาจนรับมือไม่ทัน เพิ่มการรับรู้แบรนด์ ลูกค้าเป้าหมาย และรายได้คุณให้กระฉูดยิ่งกว่าเดิม

ขยายอาณาจักรธุรกิจให้กว้างไกลด้วยโฆษณาโซเชียลมีเดีย เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายสุดปังที่พร้อมเปย์บนเว็บไซต์คุณแบบเน้นๆ

เปิดตัวเว็บไซต์ใหม่ให้ปังตั้งแต่วินาทีแรกด้วยโฆษณา PPC กวาดลูกค้าเป้าหมายเข้าร้านรัวๆ พร้อมเสริมทัพด้วยกลยุทธ์ SEO พุ่งทะยานสู่อันดับหนึ่ง

อยากได้กำไรเน้นๆ จากโฆษณาออนไลน์ใช่ไหม ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ PPC ของเราสิ รับรองคุ้มยิ่งกว่าคุ้ม

ที่ Uptle เหล่าผู้เชี่ยวชาญ PPC ของเราพร้อมวิเคราะห์เจาะลึกเป้าหมายและงบประมาณคุณ พร้อมสร้างกลยุทธ์สุดเฉียบเพื่อปั้นโฆษณาสุดปัง เรียกลูกค้าให้กระเป๋าฉีกกันถ้วนหน้า

ตัวเลือกการจัดส่งสุดคล่องตัวสำหรับเว็บไซต์คุณ

เมื่อขายบนเว็บไซต์ของตัวเอง คุณคือผู้คุมเกมการจัดส่งทั้งหมด

มาดูปัจจัยสำคัญในการจัดส่งกันเลย

  • อัตราค่าจัดส่งและวิธีการจัดส่ง ให้คุณเลือกได้ว่าจะให้ลูกค้ารับผิดชอบค่าจัดส่งทั้งหมด หรือจะใจป้ำมอบบริการจัดส่งฟรีในอัตราคงที่ เพื่อแบ่งเบาภาระให้ลูกค้าสุดที่รักคุณ
  • ขนาดและน้ำหนักของสินค้า บันทึกน้ำหนักสินค้าอย่างแม่นยำเพื่อกำหนดอัตราค่าจัดส่งที่คุ้มค่าทั้งกับลูกค้าและกำไรคุณ
  • บรรจุภัณฑ์ เลือกบรรจุภัณฑ์ได้หลากหลายจาก USPS, UPS, DHL หรือจะลงทุนสร้างเอกลักษณ์ให้ธุรกิจด้วยบรรจุภัณฑ์สุดคูลในสไตล์คุณ

อย่าลืมสร้างนโยบายการคืนสินค้าและบริการลูกค้าสุดประทับใจด้วยนะ

ข้อดีและข้อเสียของการขายบนเว็บไซต์ของตัวเอง

ข้อดี
  • คุมราคาได้ดั่งใจขายบนเว็บไซต์ตัวเอง คุมราคาได้เต็มที่ อยากลด แลก แจก แถม ก็ตามสบาย ไม่ต้องคอยกังวลคู่แข่ง
  • ไร้คู่แข่งกวนใจขายบนเว็บไซต์ตัวเอง ไม่ต้องปวดหัวกับคู่แข่งแย่งลูกค้า เพราะนี่คืออาณาจักรคุณแต่เพียงผู้เดียว
  • ไม่ต้องจ่ายค่าธรรมเนียมให้แพลตฟอร์มอื่นขายบนเว็บไซต์ตัวเอง จ่ายแค่ค่าบริการเสริมอย่าง SEO หรือค่าดูแลเว็บไซต์เท่านั้น คุ้มยิ่งกว่าคุ้ม
ข้อเสีย
  • ต้องมีความรู้ด้านเทคนิคขั้นเทพการสร้างเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซไม่ใช่แค่แปะรูป เขียนคำอธิบายจบนะจ๊ะ เพราะคุณต้องมีความรู้ด้านเทคนิคมากมาย ทั้งการตั้งค่าโฮสติ้ง การผสานการทำงานต่างๆ การรักษาความปลอดภัยของเว็บไซต์ ช่องทางการชำระเงิน และอีกมากมาย ถ้าไม่อยากปวดหัวกับเรื่องพวกนี้ แนะนำให้จ้างบริษัทออกแบบเว็บไซต์มืออาชีพดีกว่า
  • ลูกค้าอาจหลงทางในจักรวาลออนไลน์สำหรับธุรกิจขนาดเล็ก โดยเฉพาะมือใหม่หัดสร้างเว็บไซต์ การทำให้ลูกค้าค้นพบเว็บไซต์คุณท่ามกลางมหากาพย์เว็บไซต์นับล้านนั้นไม่ง่ายเลย เตรียมใจไว้เลยว่า ต่อให้เว็บไซต์คุณจะสวยสะกดแค่ไหน ถ้าลูกค้าหาไม่เจอ ก็จบเห่ ไม่มียอดขายแน่นอน

อยากเพิ่มลูกค้าให้พุ่งกระฉูดใช่ไหม ลองลงทุนกับแผน SEO เพื่อดึงดูดลูกค้าให้เข้ามาชมเว็บไซต์กันแบบรัวๆ แต่ช้าก่อน ถ้าอยากได้ลูกค้าเร็วทันใจ ก็ลองขายบนแพลตฟอร์มออนไลน์ดูสิ

  • ต้องทุ่มเทแรงกายแรงใจสร้างความเชื่อมั่นให้ลูกค้า เว็บไซต์คุณอาจยังขาดชื่อเสียงหรือการันตีจากลูกค้า ไม่เหมือนแบรนด์ยักษ์ใหญ่อย่าง Amazon ดังนั้นต้องทุ่มสุดตัวเพื่อสร้างความเชื่อใจให้ลูกค้ากลับมาซื้อซ้ำแบบไม่ลังเล

ขุมทรัพย์ความรู้เพื่อพิชิตยอดขายบนเว็บไซต์คุณ

สรุปแบบเน้นๆ

อยากคุมเกมธุรกิจออนไลน์แบบเบ็ดเสร็จ พร้อมพาธุรกิจทะยานสู่ความสำเร็จระยะยาวใช่ไหม การสร้างเว็บไซต์ของตัวเองนี่แหละคือคำตอบ

การตลาดออนไลน์สุดปัง ต้องเลือกให้ตรงใจ

เลือกบริการการตลาดอีคอมเมิร์ซที่ใช่ แล้วคลิกดูเรทราคาสุดพิเศษสำหรับแคมเปญคุณเลย

ออกแบบเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซสุดว้าว
รับออกแบบเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซที่โดดเด่นไม่ซ้ำใคร รองรับมือถือทุกรุ่น พร้อมติดสปีด SEO ให้ร้านคุณติดอันดับในพริบตา
ยิงโฆษณาอีคอมเมิร์ซให้ตรงเป้า
โปรโมทร้านให้ปังบน Google และ Bing ด้วยโฆษณาสุดเจ๋ง สร้างสรรค์โดยผู้เชี่ยวชาญ PPC ด้านอีคอมเมิร์ซโดยเฉพาะ
ดันยอดขายด้วยกลยุทธ์ SEO
ขายของออนไลน์อยู่ใช่ไหม? อยากสต๊อกหมุนไว ออเดอร์ล้นมือ เลือก SEO สำหรับอีคอมเมิร์ซ กลยุทธ์ระยะยาวที่จะทำให้คลังสินค้าคุณไม่ว่างเว้น

แพลตฟอร์มขายออนไลน์สุดปังแห่งปี 2024

คำถามชวนมึนระดับล้าน แพลตฟอร์มขายออนไลน์ที่ดีที่สุดคืออะไร? จะเป็นตลาดออนไลน์สุดฮิต หรือเว็บไซต์ของตัวเองกันแน่

เสียใจด้วยนะ โลกนี้ไม่มีคำตอบสำเร็จรูป แต่ไม่ต้องกังวลไป คู่มือตลาดออนไลน์ของเราพร้อมช่วยให้คุณเริ่มต้นได้อย่างมั่นใจ ไม่ว่าเป้าหมาย ธุรกิจ หรืองบประมาณคุณจะเป็นแบบไหน เราพร้อมค้นหาแพลตฟอร์มที่ใช่ที่สุดให้คุณ อาจเป็นตลาดออนไลน์ เว็บไซต์คุณเอง หรือผสมผสานทั้งสองอย่างเข้าด้วยกัน

การเลือกแพลตฟอร์มขายออนไลน์คือการตัดสินใจครั้งสำคัญ ที่อาจพลิกชะตาธุรกิจคุณไปตลอดกาล

Uptle เข้าใจดีว่าการค้นหาและตรวจสอบตัวเลือกทั้งหมดอย่างถี่ถ้วนนั้นสำคัญแค่ไหน เราจึงแนะนำให้คุณปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านอีคอมเมิร์ซอย่างทีม Uptle ของเราสิ

เราคือมือโปรด้านการสร้างเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซที่ทั้งสวยสะกดตาและติดอันดับในผลการค้นหา

นอกจากนี้ เรายังช่วยให้บริษัทคุณคว้าโอกาสสุดปังบนเว็บไซต์ขายสินค้าออนไลน์ที่ดีที่สุดอย่าง Amazon และ Walmart Marketplace พร้อมพาคุณโกยยอดขายจากทุกช่องทางขายของออนไลน์แบบไม่มีพลาด

ขายยังไงให้ปังบนตลาดออนไลน์

ยังมีคำถามคาใจเกี่ยวกับการขายสินค้าบนเว็บไซต์และตลาดออนไลน์อย่าง Etsy และ Amazon อยู่ใช่ไหม?

ลองมาดูคำถามยอดฮิตกันเลย

ตลาดออนไลน์คืออะไรกันแน่?

ตลาดออนไลน์คือแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซที่รวบรวมสินค้าหลากหลายประเภทจากหลากหลายผู้ขายมาไว้ในที่เดียว ไม่ว่าจะเป็น Amazon, Google Shopping, Walmart Marketplace, หรือ Etsy ก็ล้วนเป็นตัวอย่างของตลาดออนไลน์ที่ทั้งธุรกิจและบุคคลทั่วไปต่างเลือกใช้

ทำไมต้องขายสินค้าบนตลาดออนไลน์?

เมื่อพูดถึงการขายสินค้าออนไลน์ ตลาดออนไลน์นี่แหละคือคำตอบสุดปัง

ตลาดออนไลน์ชื่อดังอย่าง Amazon, eBay และ Walmart Marketplace มีลูกค้าขาช้อปเหนียวแน่นอยู่แล้วเพียบ การเข้าร่วมเป็นหนึ่งในผู้ขายบนแพลตฟอร์มเหล่านี้จึงเปิดโอกาสให้ธุรกิจคุณเข้าถึงลูกค้ามหาศาลที่พร้อมเปย์ แปลง่ายๆ ก็คือ ยอดขายออนไลน์พุ่งกระฉูดแน่นอน

อีกหนึ่งข้อดีของตลาดออนไลน์คือขั้นตอนการเริ่มต้นที่ง่ายแสนง่าย ธุรกิจคุณสามารถสร้างบัญชี อัปโหลดสินค้า และเริ่มขายได้ทันที ยกตัวอย่างเช่น Amazon ที่มีฟีเจอร์อัปโหลดสินค้าแบบเหมาโหลสุดสะดวก

โดยสรุปแล้ว การใช้ประโยชน์จากตลาดออนไลน์เพื่อขายสินค้าคือกลยุทธ์สุดฉลาด เพราะนอกจากจะเข้าถึงลูกค้ากลุ่มใหญ่ที่กำลังมองหาสินค้าอยู่ ยังมาพร้อมโครงสร้างพื้นฐานที่พร้อมใช้งานและขั้นตอนการเริ่มต้นที่รวดเร็วสำหรับมือใหม่อีกด้วย

แต่ไม่ได้หมายความว่าคุณไม่ควรขายบนเว็บไซต์ของตัวเองนะ แค่อยากให้เปิดช่องทางสร้างรายได้เพิ่มอีกทางเท่านั้นเอง

[โบนัส] เจาะสถิติเด็ด ตลาดออนไลน์สุดปังในอเมริกา

ตลาดออนไลน์ในอเมริกากวาดรายได้มหาศาลถึง ฿2.67 ล้านล้าน รู้แบบนี้แล้ว ธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMB) ทั้งหลายจะพลาดโอกาสทองบนแพลตฟอร์มสุดเจ๋งเหล่านี้ไปได้อย่างไร? มาเจาะลึกสถิติเด็ดๆ ของตลาดออนไลน์สุดฮอตในอเมริกากันดีกว่า

เตรียมตัวให้พร้อม แล้วไปบุกตลาดออนไลน์กันเลย

Amazon

  • ฿295 พันล้านคือยอดขายสุดปังบน Amazon Marketplace
  • 1.9 ล้านคือจำนวนผู้ขายสุดคึกคักบน Amazon Marketplace ทั่วโลก
  • 150 ล้านคือจำนวนผู้เยี่ยมชมเว็บที่ไม่ซ้ำหน้าในอเมริกาในแต่ละเดือน เยอะสุดๆ
  • 1 ล้าน+คือจำนวนผู้ขาย SMB ในอเมริกาที่ปักหลักบน Amazon
  • 54% ของสินค้าทั้งหมดที่ขายได้มาจากผู้ขายอิสระบน Amazon

Walmart

  • ฿13-15 พันล้านคือยอดขายออนไลน์สุดว้าวในแต่ละปี
  • 80 ล้านคือจำนวนสินค้าสุดหลากหลายบน Walmart.com
  • 100 ล้านคือจำนวนผู้เยี่ยมชม Walmart.com ที่ไม่ซ้ำหน้าในแต่ละเดือน
  • 35+คือจำนวนหมวดหมู่สินค้าสุดครบครัน
  • อันดับ 2คือตำแหน่งสุดปังของ Walmart ในฐานะผู้ค้าปลีกออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในอเมริกา

Shopify

  • ฿100+ พันล้านคือยอดขายรวมสุดอลังการบนแพลตฟอร์มนี้
  • 218 ล้านคือจำนวนผู้ซื้อสุดคึกคักบนแพลตฟอร์ม
  • 820,000คือจำนวนร้านค้าสุดปังที่ขายบน Shopify
  • 5300+คือจำนวนธุรกิจสุดเจ๋งที่เลือกใช้ Shopify Plus
  • 69%คือสัดส่วนคำสั่งซื้อสุดว้าวที่มาจากอุปกรณ์มือถือ

Target ห้างสุดปัง ดังเปรี้ยงไม่หยุด

  • ฿5 พันล้านคือยอดขายออนไลน์สุดว้าวในแต่ละปี
  • 197 ล้านคือจำนวนผู้เยี่ยมชมเว็บในช่วงหกเดือนที่ผ่านมา เยอะสุดๆ
  • 1800คือจำนวนหน้าร้านสุดว้าวที่กระจายอยู่ทั่วประเทศ
  • อันดับ 3คือตำแหน่งสุดปังของ Target ในฐานะผู้ค้าปลีกลดราคาที่ใหญ่ที่สุดในอเมริกา
  • 29%คืออัตราการเติบโตของยอดขายออนไลน์สุดร้อนแรงในปี 2024

eBay สุดเจ๋ง ยืนหนึ่งครองใจนักช้อป

  • ฿90 พันล้านคือยอดขายถล่มทลายในปี 2024
  • 250 ล้านคือจำนวนสินค้าสุดปังที่ขึ้นแท่นโปรโมชัน
  • 182 ล้านคือจำนวนนักช้อปสุดคึกคักบน eBay
  • 106 ล้านคือจำนวนผู้เยี่ยมชมเว็บที่ไม่ซ้ำหน้าในแต่ละเดือน
  • อันดับ 1คือตำแหน่งสุดว้าวจากผลสำรวจความพึงพอใจของผู้ขายออนไลน์

Etsy สุดแนว แหล่งรวมไอเท็มไม่ซ้ำใคร

  • กว่า ฿330 พันล้านคือยอดขายสินค้ารวมสุดอลังการในแต่ละปี
  • เกือบ 82 ล้านคือจำนวนนักช้อปสุดชิคบน Etsy
  • กว่า 4 ล้านคือจำนวนร้านค้าสุดครีเอทีฟบน Etsy
  • 62%คือสัดส่วนร้านค้าสุดว้าวบน Etsy ที่มาจากอเมริกา
  • ฿154 พันล้านคือมูลค่าสุดปังที่ Etsy มอบให้กับเศรษฐกิจอเมริกา

Sears สุดช็อค ช็อปเพลินเกินห้ามใจ

  • 2.4 พันล้านคือจำนวนเพจวิวสุดว้าวในแต่ละปี
  • 15 ล้านคือจำนวนผู้เยี่ยมชมเว็บที่ไม่ซ้ำหน้าในแต่ละเดือน
  • 20+คือจำนวนหมวดหมู่สินค้าสุดครบครัน
  • อันดับ 3คือตำแหน่งสุดปังของ Sears ในฐานะผู้ค้าปลีกออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุด

Alibaba สุดยิ่งใหญ่ ครองใจนักช้อปแดนมังกร

  • 779 ล้านคือจำนวนนักช้อปสุดคึกคักในแต่ละปี
  • มูลค่าการซื้อขายสินค้ารวมสุดอลังการในจีน ทะลุ ฿1 ล้านล้าน
  • ฿25 พันล้านคือมูลค่า IPO สุดปัง
  • 721 ล้านคือจำนวนผู้ใช้แอป Alibaba บนสมาร์ทโฟน เยอะสุดๆ
  • 80%คือสัดส่วนความเป็นเจ้าของตลาดช้อปปิ้งออนไลน์ในจีน สุดว้าว

Rakuten สุดเจ๋ง คืนกำไรไม่อั้น

  • มูลค่าการซื้อขายสินค้ารวมสุดว้าว กว่า ฿31 พันล้าน
  • 1.4 พันล้านคือจำนวนสมาชิกทั่วโลก
  • 12 ล้านคือจำนวนสมาชิกในอเมริกา
  • 40%คือเงินคืนสุดปังจากร้านค้ากว่า 2500 ร้าน
  • 30 ประเทศและภูมิภาคคือพื้นที่ให้บริการสุดว้าว

สร้างเว็บสุดปัง โกยลูกค้าไม่ยั้ง

  • ฿861 ล้านล้านคือมูลค่าสุดอลังการของตลาดอีคอมเมิร์ซในอเมริกา
  • 95% ของชาวอเมริกันช้อปออนไลน์อย่างน้อยปีละครั้ง
  • 80% ของผู้ใช้อินเทอร์เน็ตในอเมริกาเคยช้อปออนไลน์มาแล้ว
  • 51% ของชาวอเมริกันชอบช้อปออนไลน์มากกว่า
  • 43% ของทราฟฟิกอีคอมเมิร์ซมาจากกูเกิล

Uptle ผู้เชี่ยวชาญด้านตลาดออนไลน์ สุดครบครัน

เราออกแบบและเปิดตัวเว็บไซต์ให้ลูกค้ากว่า 1100 ราย และเราเชี่ยวชาญด้านการบริหารจัดการตลาดออนไลน์แบบสุดๆ

นอกจากบริการออกแบบและพัฒนาเว็บไซต์แบบเฉพาะตัวแล้ว เรายังนำเสนอบริการการตลาดสุดปังที่มุ่งเน้นผลลัพธ์ ครอบคลุมตลาดออนไลน์ชื่อดังมากมาย ได้แก่

มาสร้างและปรับแต่งหน้าร้านสุดว้าวคุณได้แล้ววันนี้ ติดต่อ Uptle หรือโทรหาเราที่ +6683-090-8125

คำถาม?

มีคำถามเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Uptle? เรายินดีที่จะตอบคำถามเหล่านี้

กรอกแบบฟอร์มด้านล่างเพื่อสอบถามเกี่ยวกับวัฒนธรรมของเราว่าอย่างไร
ตำแหน่งที่เหมาะสมสำหรับคุณกิจกรรมหรือกระบวนการจ้างงานของเรา

พร้อมที่จะพูดคุยกับผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาด?

คุณ Sales

+6683-090-8125
1.6M

ชั่วโมงแห่งความเชี่ยวชาญ

300+

ผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาดดิจิทัล

1,128

ชั่วโมงแห่งความเชี่ยวชาญ